เกม Trials of Mana หรือชื่อเดิม Seiken Densetsu 3 [เซเคน เดนเสะซึ 3] ซึ่งเกมนี้เคยวางจำหน่ายให้กับเครื่อง Super Famicom ในปี 1995 และตอนนี้ได้ถูก Square Enix นำกลับมา Remake ใหม่และวางจำหน่ายในวันที่ 24 เมษายน 2020 บนเครื่อง PS4, Nintendo Switch และ Steam [PC] เราไปสนุกกับเรื่องราวของตัวเกมกันเลย…
ก่อนอื่นข้าพเจ้าอยากจะบอกก่อนว่า เกม Trials of Mana นี้มีตัวละครหลักทั้งหมด 6 ตัว และถูกจับให้คู่กันด้วยศัตรูร่วม ดังนี้ Duran+Angela, Kevin+Charlotte และ Hawkeye+Riesz แต่ละคู่จะมีศัตรูที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเนื้อเรื่องและเหตุการณ์บางอย่างอาจจะไม่เกิดขึ้นกับตัวละครหลักที่คุณเลือก เพราะเนื้อหาหลักของเกมจะยึดตามตัวละครหลักของคุณ แต่จะมีเหตุการณ์บางจุดที่ทั้ง 6 ตัวละครจะมีการดำเนินเรื่องคล้ายคลึงกัน ดังนั้นในบทสรุปที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ ถึงแม้ข้าพเจ้าจะเล่น Duran เป็นตัวละครหลัก แต่ท่านก็สามารถใช้อ้างอิงกับการเล่นดำเนินเนื้อเรื่องของตัวละครอื่นๆ ได้
บทที่ 1 การเดินทางของดูแรน
ณ อาณาจักรเวลเซนา ในค่ำคืนหนึ่งดูแรนได้ยืนเฝ้ายามอยู่บนกำแพง เขาได้เผลอหลับในและฝันถึงตอนที่พ่อและแม่ของเขาได้เสียชีวิตไปทั้งคู่ พอดูแรนตื่นขึ้นจะเกิดเหตุการณ์มีศัตรูลึกลับโจมตีทหารยามบริเวณนั้นสลบหมดทุกคน เมื่อตัวเกมให้คุณบังคับตัวละครดูแรนได้แล้ว ก่อนอื่นให้ไปเซฟที่รูปปั้นเทพธิดามาน่าสีทองก่อน จากนั้นให้ขึ้นบันไดที่อยู่ตรงข้ามจุดเซฟ วิ่งไปตรงจุดดาวบนพื้น จะตัดเข้าเหตุการณ์ที่ดูแรนจะได้พบกับวิซาร์ด จอมเวทย์ลึกลับจะโจมตีดูแรน ให้วิ่งไล่ฟันไปเรื่อยๆ แล้วดูแรนจะโดนโจมตีทีเดียวสลบกองกับพื้น เช้าวันต่อมาเหตุการณ์การลอบโจมตีได้เป็นที่ถกเถียงกันในกลุ่มอัศวิน และจะได้รู้ว่าวิซาร์ดเป็นคนของอาณาจักรอัลเทน่า ภาพจะตัดมาที่ดูแรนนั่งเศร้าอยู่ในบาร์ เวนดี้ (Wendy) น้องสาวของดูแรนได้เข้ามาบ่นที่ดูแรนทำตัวซังกะตายแล้วเดินจากไป จากนั้นให้คุณออกจากบาร์ เพื่อสำรวจรอบๆเมือง อันดับแรกให้ไปที่จุดดาวมุมขวาล่างจะเป็นโรงแรม เข้าไปคุยกับคนด้านใน จากนั้นไปยังห้องสมุดที่อยู่มุมซ้ายบนของเมือง
TIP
หลังจากคุยกับคนในโรงแรมแล้ว ก่อนที่จะเข้าไปในบ้านให้วิ่งสำรวจรอบๆเมืองอย่างจริงจังก่อน คุณจะพบกับไอเทมต่างๆมากมายให้เก็บ เช่น หีบสมบัติสีเขียว, ไหดินทรงสูงที่เอาดาบตีให้แตกได้ และถ้าสำรวจบริเวณด้านหลังโรงแรมคุณจะได้เมล็ดพืช (Seed) มา 1 เมล็ด นำไปปลูกที่กระถางตรงเคาเตอร์โรงแรม จะได้รับไอเทมด้วย
คุยกับผู้หญิงในห้องสมุด เธอจะบอกให้ดูแรนไปยังร้านหมอดูที่อยู่ด้านขวาของรูปปั้นกลางเมือง เมื่อเข้าไปในร้านหมอดู ดูแรนกับแม่หมอจะมีปากเสียงกันนิดหน่อย แล้วหมอดูจะไล่ดูแรนให้ออกไปจากร้านของเธอ ออกจากร้านหมอดูแล้วให้วิ่งกลับไปยังบ้านที่อยู่ด้านหลังของร้านขายไอเทมที่นี่คือ บ้านของดูแรน เข้าไปด้านในแล้วขึ้นบันไดทางขวาไปชั้น 2 ดูแรนจะเก็บข้าวของเพื่เตรียมอออกเดินทาง จากนั้นให้ลงบันไดมา ดูแรนจะเข้าไปลาเวนดี้ที่กำลังหลับอยู่และออกจากบ้านมา แต่ป้าสเตล่าจะเรียกดูแรนไว้ที่หน้าบ้านและมอบดาบของพ่อดูแรนให้นำติดตัวไปด้วย หลังจากที่ดูแรนลาป้าสเตล่าแล้วก็ได้มาเข้าเฝ้าพระราชา เพื่อขอออกเดินทางไปสืบเรื่องแล้วของวิซาร์ดที่ทำร้ายตน พระราชาก็ทรงอนุญาตให้ดูแรนออกเดินทางได้ ออกจากเมืองมาดูแรนจะมาอยู่บนเส้นทาง Molebear Moors เดินลงไปทางใต้ของแผนที่จะพบถ้ำที่เชื่อมไปยังหุบเขา Stonesplit Gap เดินไปตามทางเรื่อยๆ จะเข้าสู่คัทซีนการเดินทางของดูแรน
บทที่ 2 มุ่งสู่มหานครศักดิ์สิทธิ์เวนเดล
ดูแรนได้เดินทางมาถึงฐานที่มั่น Jadd Stronghold แต่ดูเหมือนที่นี่จะถูกพวกบรีสท์แมนจากอาณาจักรเฟโรเลียเข้ามายึดครอง ให้ไปที่บาร์แล้วคุยกับพนักงานของบาร์ เขาจะแนะนำวิธีการหลบหนีออกจากที่นี่ให้ แต่ต้องทำในตอนกลางคืน ดังนั้นตอนนี้ดูแรนต้องไปพักที่โรแงแรมเพื่อรอเวลา ออกจากบาร์แล้วเดินไปยังโรงแรมที่อยู่มุมซ้ายล่างของที่นี่ คุยกับพนักงานโรงแรมเพื่อขอพักผ่อน จากนั้นเวลาจะล่วงเลยมาเป็นตอนกลางคืน ออกจากโรงแรมมาแล้วเดินไปตรงประตูทางออกจะพบว่าตอนนี้ไม่มีใครเฝ้าประตูแล้ว เดินออกมาเลย จะมาอยู่ที่ป่า Rabite Forest เป้าหมายต่อไปคือ ไปยัง Cascade Cavern ที่อยู่ทางทิศตะวันออกของป่านี้
TIP
ที่นี่จะมีมอนเสตอร์ประเภทบินอยู่ด้วย วิธีจัดการก็คือ ให้กระโดดโจมตีใส่มันจนมันล่วงลงบนพื้นแล้วค่อยจัดการมัน ไม่เช่นนั้นจะโจมตีมันไม่โดน
วิ่งไปตรงจุดดาวบนแผนที่เดินไปตามทางจะมาถึงถ้ำน้ำตก แต่เมื่อวิ่งเข้าไปแล้วดูแรนจะกระเด็ดออกมา เพราะปากถ้ำมีเวทย์บาเรียป้องกันไว้อยู่ คราวนี้ก็ต้องหาวิธีทำลายบาเรียนี้ให้ได้ โดยเป้าหมายต่อไปก็คือ Lakeside Town Astoria ซึ่งเส้นทางที่จะพาดูแรนไปยังจุดหมายก็คือ ทางแยกที่เคยวิ่งผ่านมาก่อนน่าที่จะมาถึงปากถ้ำน้ำตกนั้นเอง เมื่อมาถึง Lakeside Town Astoria ให้ไปคุยกับคนในเมือง 2 คน โดยคนแรกผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงกลางเมือง เขาจะแนะนำให้ลองไปดูที่ถ้ำน้ำตกตอนกลางคืนอีกรอบ ส่วนคนที่ 2 ผู้หญิงยืนอยู่ตรงเกาะด้านขวาของเมือง คุณยายจะบอกว่าถ้ำนั้นเป็นทางเชื่อมไปยังมหานครศักดิ์สิทธิ์เวนเดล เพื่อความปลอดภัยปากถ้ำจึงโดนลงคาถาป้องกันไว้ เมื่อคุยกับทั้ง 2 คนแล้วให้ไปนอนพักที่โรงแรม
ในคืนนั้นเองดูแรนก็ตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะมีแสงประหลาดส่องเข้ามา วิ่งออกจากโรงแรมตามแสงนั้นไปที่ป่า Rabite Forest วิ่งตามแสงไปเรื่อยๆจนสุดททาง ดูแรนจะได้พบกับแฟรี่ โดยเธอขอร้องให้ดูแรนช่วยพาเธอไปยังเมืองเวนเดลที แต่ดูแรนจะบอกว่าไปไม่ได้ เพราะปากถ้ำมีบาเรียปิดอยู่ แฟรี่จะบอกว่าเธอสามารถทำลายบาเรียนั้นได้ เมื่อคุยกันจบจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นที่ Lakeside Town Astoria ให้วิ่งย้อนกลับไปที่นั้นซะ เมื่อมาถึงเมืองจะพบว่าเมือง Lakeside Town Astoria โดนทำลายย่อยยับมาก และผุ้คนภายในเมืองก็หายไปจนหมด แฟรี่บอกว่านี่อาจจะเป็นฝีมือของพวกบรีสท์แมน ให้ดูแรนรีบพาเธอไปนครเวนเดลให้เร็วที่สุด ย้อนกลับออกมาจากเมืองแล้ว ให้มุ่งหน้าไปยังถ้ำน้ำตกในป่า Rabite Forest บริเวณหน้าถ้ำดูแรนจะได้พบกับเพื่อนร่วมเดินทางอีก 1 คน...แล้วเกมจะตัดไปเล่าเรื่องตัวละครตัวที่ 2 ที่คุณเลือก…
บทที่ 3 ลูมิน่าภูติแห่งแสง
หลังจากได้รับรู้ที่มาที่ไปของสมาชิกคนที่ 2 ของปาร์ตี้แล้ว เขาหรือเธอจะเข้าร่วมปาร์ตี้ หลังจากนั้นให้วิ่งเข้าไปในถ้ำ แล้วแฟรี่จะช่วยปลดบาเรียให้ เมื่อเข้ามาในถ้ำแล้ว จุดหมายก็คือ ทางออกที่อยู่มุมซ้ายล่าง เมื่อออกมาจะได้พบกับชาร์ลอตต์กำลังจะตกหน้าผา ดูแรนจะช่วยเธอขึ้นมา ชาร์ลอตต์จะแนะนำตัวพร้อมกับเล่าเรื่องราวที่ตนเองมาอยู่ที่นี่ เล่าจบก็จะจากไป (ถ้าคุณเลือกชาร์ลอตต์ตอนเริ่มเกม เธอก็จะเข้าร่วมปาร์ตี้กับคุณ) ให้เดินไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะออกมาอยู่ที่ทางเข้านครศักดิ์สิทธิ์เวนเดล Holy City Wendel มุ่งหน้าไปที่วิหารแห่งแสง (Temple of Light) เข้าไปด้านในสุดจะได้พบกับนักบวชแห่งแสงยืนอยู่ที่แท่นพิธีคุยกับเขา เมื่อคุยจบเป้าหมายต่อไปคือ ตามหาพลังแห่งธาตุแสง ออกจากนครศักดิ์สิทธิ์ย้อนกลับไปที่ถ้ำ Cascade Cavern ชั้นที่ 1 ใกล้ๆรูปปั้นสำหรับเซฟจะมีทางออกใหม่อยู่ทางซ้ายให้ออกมาทางนั้น จะพบกับทางเชื่อมใหม่ที่พาไปยังอีกฝั่งหนึ่งของถ้ำชั้นที่ 3 วิ่งตามทางไปเรื่อยๆจนพบทางออกที่อยู่ใกล้ๆจุดเซฟ เมื่อออกมาจะมาอยู่ในถ้ำชั้นที่ 4 ซึ่งที่นี่จะมีบอส Fullmetal Hugger LV7 ดักรออยู่ต่อสู้เอาชนะมันให้ได้ แล้ว Lumina ภูติธาตุแสงสว่างจะปรากฏตัวออกมา เมื่อได้พลังแห่งธาตุแสงแล้ว ให้ออกจากถ้ำ ระหว่างทางดูแรนจะถูกโจมตีจากพวกบริสท์แมนและถูกจับตัวไป…
บทที่ 4 หลบหนีจากที่คุมขัง
ดูแรนฟื้นขึ้นในห้องขัง แล้วเควินจะมาช่วยแหกคุก (กรณีคุณไม่ได้เลือกเควินเป็นสมาชิกปาร์ตี้ตอนเริ่มเกม จะเป็นตัวละครอื่นมาช่วยแทนแต่ไม่ได้เข้าเป็นพวก) เมื่อออกจากห้องขังมาได้ให้วิ่งขึ้นไปด้านบนจะมาอยู่ที่ Jadd Stronghold ชั้น 2 ให้วิ่งสำรวจทางไปจนสุดทางเดินด้านซ้ายสุดจะพบสวิตช์เปิดประตูตรงกลาง กดสำรวจแล้วให้วิ่งย้อนกลับไปตรงประตูกลางของห้องใหญ่ตอนนี้จะสามารถเปิดเข้าไปได้แล้ว วิ่งออกมาด้านนอกแล้วให้ไปที่ทางเข้าท่าเรือซึ่งอยู่ข้างๆ โรงแรม ดูแรนและพวกจะหนีขึ้นเรือหลบหนีจาก Jadd ได้สำเร็จ
เรือเดินทางมาถึงเมืองท่า Free City of Maia เมื่อลงจากเรือให้เดินไปคุยกับผู้เฒ่าที่ยืนอยู่กลางเมือง เขาจะบอกว่า พระราชาของเวลเซน่าอาจจะรู้เรื่องเกี่ยวกับ Mana Stone จากนั้นให้ไปยังบ้านมุมขวาบนของเมือง เข้าไปในบ้านคุยกับชายตัวเล็กทางขวา เขาจะแนะนำตัวว่าชื่อ Von Boyage เป็นช่างทำปืนใหญ่ แล้วเขาจะบอกให้ดูแรนไปหาเขาที่หลังบ้าน เมื่อออกมาทางหลังบ้านจะเจอวอนโบยาดยืนอยู่ใกล้ๆปืนใหญ่กระบอกหนึ่งเข้าไปคุยกับเขา วอนโบยาดจะแนะนำสิ่งประดิษฐ์ของเขาและบอกว่าตอนนี้มันยังไม่เสร็จ จากนั้นให้ออกจากเมืองท่า Free City of Maia ด้วยทางออกด้านซ้าย เพื่อมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรเวลเซน่า
บทที่ 5 กลับสู่เวลเซน่า
ดูแรนจะมาอยู่ที่ถนน Golden Road ให้มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแผนที่ จะเป็นทางออกมาสู่หุบเขา Stonesplit Gap ชั้น 3 เดินตามทางไปเรื่อยๆจะออกมาอยู่ที่ Stonespit Gap ชั้น 2 เมื่อกำลังจะข้ามสะพาน กองกำลังจอมเวทย์ของอัลเทน่าก็จะเข้ามาขัดขวางพร้อมกับส่งโกเลม 2 ตัวออกมาโจมตีพวกดูแรน จัดการมันให้ได้ สะพานจะถูกระเบิดขาดทำให้ข้ามไปยังอาณาจักรเวลเซน่าไม่ได้
ดูแรนจะย้อนกับมาที่เมืองท่า Free City of Maia ให้ไปหาวอนโบยาดที่บ้าน เขาจะบอกว่าสะพานขาดไปก็ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้ปืนใหญ่เวอร์ชั่น 2 ของเขาเสร็จแล้ว และมันจะช่วยแก้ไขปัญหาการเดินทางของดูแรนได้ จากนั้นให้ออกไปหาวอนโบยาดที่หลังบ้านของเขาตรงปืนใหญ่ เขาจะบอกว่ามันใช้ยิงคนให้ไปยังจุดต่างๆได้ แต่ตอนนี้ขาดวัตถุดิบสำคัญอย่าง Nitromyte วอนโบยาดจะบอกให้ดูแรนไปหามันมาให้หน่อย ออกมาสำรวจคุยกับคนในเมืองดู แล้วจะได้ข้อมูลมาว่า พวกดวาร์ฟที่อยู่ในถ้ำ Stonesplit Gap น่าจะมี Nitromyte อยู่ รู้อย่างนี้แล้วก็เดินทางย้อนกลับไปที่ถ้ำ Stonesplit Gap ได้เลย เมื่อมาถึง Stonesplit Gap ชั้น 3 ให้ไปตรงจุดเซฟ ลูมิน่าภูติแห่งแสงจะช่วยเปิดทางลับไปยังหมูบ้านดวาร์ฟให้
TIP
ตอนนี้มอนสเตอร์ที่คุณจะได้ต่อสู้ด้วย เริ่มที่จะใช้สกิลพิษได้แล้ว ดังนั้นควรหาซื้อไอเทม Medical Herb ที่มีคุณสมบัติรักษาอาการผิดปกติติดตัวไปเยอะๆด้วยจะดีมาก เมื่อติดพิษจะได้มียารักษา
เดินลงไปตามทางจะเข้ามาสู่หมูบ้านดวาร์ฟ ให้ไปที่ร้านขายไอเทมด้านบนของหมู่บ้าน คุยกับคนขายไอเทม เขาจะบอกว่าอยากให้ดูแรนช่วยไปตามหาคนแคระที่ชื่อ Watts คุยเสร็จเดินย้อนไปตรงป้ายทางเข้าหมู่บ้านด้านขวาที่มีกองหินปิดทางอยู่ คุยกับดวาร์ฟตรงนั้น เขาจะขุดทำลายกองหินเปิดทางให้ เดินไปตามทางที่เปิดใหม่จะออกมาอยู่ที่ Dwarf Tunnel ชั้น 1 เดินไปตามทางเพื่อไปด้านขวาบน ระหว่างทางถ้าเจอกองหินปิดทางก็ให้ฟันใส่กองหินทำลายมันซะ เมื่อมาตรงจุดหมาย ดูแรนจะได้พบกับดวาร์ฟที่ชื่อ Watt เขาจะบอกว่าอยากได้ Nitromyte เหรอขายให้ในราคา 5,000 lucre เอาไหม? ให้ตอบ No way เขาจะลดราคาให้เหลือ 3,000 ก็ตอบ No way ไปอีกรอบ คราวนี้วัตต์เขาจะบอกว่าเสียเวลาที่คุยกับพวกดูแรนจริงๆ และขอตัวออกไปตามหาภูติแห่งดินที่อยู่ภายในอุโมงค์นี้ต่อ หลังจากวัตต์ไปแล้ว ให้สำรวจภายในอุโมงค์ต่อจะพบทางที่จะพาไปยังด้านบนซึ่งจะเป็นทางเชื่อมไปยัง Dwarf Tunnel ชั้น 2 ที่นี่จะได้พบกับวัตต์เขาจะบอกว่าแถวนี้ให้ความรู้สึกไม่ค่อยดี และบอส Jewel Eater LV12 ก็จะออกมาจากโพรงมาโจมตีพวกดูแรน กำจัดมันซะ แล้วโนมภูติธาตุดินจะถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ แฟรี่จะขอให้โนมช่วยเดินทางไปด้วยกันเพื่อเปิดประตูสู่วิหารแห่งมาน่า โนมก็จะตอบตกลง คราวนี้ตัวละครของคุณก็จะสามารถใช้เวทย์ที่เกี่ยวกับธาตุดินได้แล้ว คุยกับวัตต์เขาจะมอบ Nitromyte ให้เป็นการขอบคุณและจะช่วยวาร์ปพวกดูแรนออกมายัง Stonesplit Gap ชั้น 3 ตรงทางเข้าหมู่บ้านดวาร์ฟให้ด้วย จากนั้นให้เดินทางกลับไปหาวอนโบยาดที่เมืองท่า Free city of Maia ซะ คุยกับวอนโบยาดภายในบ้านเสร็จให้ออกไปหลังบ้านตรงปินใหญ่ วอนโบยาดจะใช้ปืนใหญ่ยิงส่งพวกดูแรนไปยังอาณาจักรเวลเซน่า
บทที่ 6 ราชาวีรบุรุษตกอยู่ในอันตราย
พวกดูแรนจะถูกยิงมาตกลงตรงที่ราบ Molebear Moors โซน 1 จากนั้นให้ออกสำรวจบริเวณนี้ จะพบว่าที่นี่จะมีบางจุด (กองดินใหญ่ๆ) เป็นโพรงใต้ดินใช้สำหรับเดินทางไปยังทางจุดอื่นๆของแผนที่ได้ ให้เดินสำรวจจนพบทางที่จะเชื่อมไปยังทางเข้าอาณาจักรเวลเซน่า เมื่อเข้าไปในเมืองจะพบว่าเมืองถูกกองทัพจอมเวทย์จากอัลเทน่าโจมตี จากจุดที่ยืนอยู่ให้ขึ้นบันไดไปบนกำแพงแล้วใช้ทางเดินบนกำแพงเดินเข้าไปลานตรงกลาง จากนั้นให้รีบไปที่ท้องพระโรงจะพบวิซาร์ดกำลังจะสังหารพระราชา แต่ดูแรนจะเข้าไปขัดขวางไว้ และวิซาร์ดจะยอมล่าถอยไป เมื่อช่วยพระราชาไว้ได้ พระองค์จะเล่าให้ฟังว่า Mana Stones ทั้ง 8 คืออะไร พร้อมทั้งบอกว่า Wind Stone น่าจะอยู่ที่เมืองลอเรนท์ (Laurent) จากนั้นให้เข้าไปคุยกับพระราชาอีกรอบ ดูแรนจะได้รับ Chain Ability: Pride มา
ออกจากท้องพระโรงแล้วให้เดินไปคุยกับทหารที่อยู่ตรงประตูทางเข้าห้องโถงปราสาท เขาจะบอกว่าได้มีการอัพเกรดปืนใหญ่ที่เราเคยใช้ใหม่ละนะ จากนั้นเดินออกมาที่ลานกว้างด้านนอกจะพบกับวอนจัวร์ น้องชายของวอนโบยาดคุยกับเขา แล้วให้เดินออกจากตัวปราสาทไปในเมือง
TIP
ลานกว้างที่วอนจัวร์ยืนอยู่ จะเห็นอัศวินเกราะสีส้มๆยืนพิงกำแพงอยู่ตรงข้ามกับวอนจัวร์ เมื่อดูแรนเข้าไปคุยกับอัศวินคนนี้จะได้รับ Chain Ability: Personal Style มา
เมื่อมาอยู่ในเมืองเวลเซน่าแล้ว ให้ไปที่ร้านหมอดู คุยกับแม่หมอ ดูแรนจะได้ Chain Ability ใหม่มาอีก 1 อัน จากนั้นให้เดินไปพูดคุยกับ NPC ที่มีดาวปรากฏจะทราบข้อมูลการเดินทางไปยังลอเรนท์ว่าต้องไปอย่างไร ย้อนกลับไปหาวอนจัวร์จะพบว่าปืนใหญ่กระบอกใหม่ติดตั้งเสร็จแล้ว จากนั้นให้ใช้บริการปืนใหญ่ของวอนจัวร์ยิงส่งมาที่เมืองท่า Free City of Maia ดูแรนจะโดนยิงมาตกที่หลังบ้านของวอนโบยาด เข้าไปในบ้านคุยกับวอนโบยาดจะได้รับ Chain Ability: Will to Fight มา แล้วให้ออกจากเมืองท่าไปยังถนน Golden Road มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ Golden Road จะพบกับเมืองสมาคมพ่อค้า Merchant Town Beiser เข้าไปในเมืองแล้วไปที่ท่าเรือ คุยกับกัปตันเรือ เขาจะแนะนำว่าดูแรนเพิ่งมาที่เมืองนี้ครั้งแรก ควรจะไปหาข้อมูลว่าเมืองนี้มีอะไรขึ้นชื่อบ้างก่อนดีกว่าไหม จะได้ไม่พลาดของสำคัญไป หันหลังกลับไปคุยกับ NPC ในเมือง 2 คนเขาจะแนะนำว่าเมืองนี้มีอะไรเด่นๆ บ้าง คุยครบ 2 คนแล้วให้ย้อนกลับไปหากัปตันอีกครั้ง คราวนี้เขาจะบอกว่าเรือจะเดินทางไปยังท่าเรือ Palo Port จะไปไหม 150 Lucre จ่ายเงินไปซะแล้วขึ้นเรือ
TIP
ภายในเมือง Merchant Town Beiser จะมีตลาดมืด Night Market อยู่มุมขวาล่างของเมือง ซึ่งตลาดนี้จะเปิดเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น ภายในตลาดจะขายไอเทมหายากระดับแรร์มากมาย และตรงเวทีกลางตลาดจะเจอแดนเซอร์กลุ่ม Aurora Sisters คุยกับพวกเธอแล้วจ้างพวกเธอเต้น ดูแรนจะได้รับ Chain Ability: Magic Switch มา นอกจากนั้นตลาดมืดจะมีร้านหมอดูที่รับรีเซตค่า Training Point ของตัวละครด้วย
บทที่ 7 ซิลฟิดภูติแห่งลม
เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ Palo Port จะพบว่าที่นี่ถูกยึดครองโดยสมาคมจอมโจรเนวาร์ล ลองเดินสอบถามคนในท่าเรือให้ทั่ว แล้วไปที่บาร์จะพบกับริสซ์ (Riesz) กำลังกระซิบกระซาบกับพนักงานในบาร์ ให้ออกจากบาร์แล้วใช้ทางออกซ้ายบนของท่าเรือออกมายังหุบเขา Heavensway เดินตามเส้นทางที่จะไปทิศตะวันออกของแผนที่ จะผ่านจุดที่เป็นสวนดอกไม้ แล้วทุกคนจะสลบไป ลืมตาตื่นมาอีกทีดูแรนจะได้รับการช่วยเหลือจากริสซ์ เธอจะบอกว่าที่นี่คือที่หลบภัยของเหล่าอเมซอน และตอนนี้ปราสาทลอเรนท์ได้ถูกยึดครองไปแล้ว จากนั้นให้เดินไปคุยกับเหล่าองครักษ์อเมซอนที่อยู่ที่นี่ดู ที่ชั้น 2 ริสซ์จะปรึกษากับผู้เฒ่าคนหนึ่ง เขาจะแนะนำให้ริสซ์ตามหา Domperi ดูแรนจึงอาสาที่จะออกไปตามหาแทนริสซ์เอง เพราะริสซ์ต้องอยู่เป็นขวัญกำลังใจให้ประชาชนของเธอ คุยกันเสร็จให้ออกจากที่หลบภัย เดินไปนิดหน่อยจะพบกับองครักษ์อเมซอนคนหนึ่งมาบอกให้ดูแรนตามเธอไป เดินผ่านสวนดอกไม้ขึ้นไปด้านบนจะพบกับปืนใหญ่วอนโบยาด คุยกับองครักษ์คนนั้นเธอจะบอกว่าเธอชื่อเมอซี่ เป็นญาติกับวอนโบยาด ดูแรนจะบอกให้เธอช่วยส่งกลับไปที่เมืองพ่อค้า Beiser ให้หน่อย
หลังจากที่ถูกยิงมาตกที่เมืองพ่อค้า Beiser ให้ไปที่ตลาดมืดในตอนกลางคืน จะพบว่ามีร้านขายของตรงด้านขวาเปิดใหม่อยู่ 1 ร้านเข้าไปคุยกับป้าคนขายจะได้รับไอเทม Minor Mallet มา จากนั้นให้ขึ้นเรือไปยัง Jadd Stronghold เมื่อเรือเดินทางมาถึงฐานที่มั่น Jadd Stronghold แล้วให้ออกจากที่นี่ไปยังป่า Rabite Forest มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของแผนที่ ใกล้ๆกับจุดที่พบกับแฟรี่ครั้งแรก บริเวณนั้นจะมีรูปปั้นปิศาจอยู่ตัวหนึ่งไปลองสำรวจดู แล้วทางเข้าป่า Koropokkur Woods จะปรากฏให้เห็น จากนั้นดูแรนจะใช้ไอเทม Minor Mallet ทำให้ทุกคนตัวเล็กลงเพื่อเข้าไปในป่าของพวก Koropikkur
เมื่อเข้ามาในป่าแล้วให้เดินสำรวจพูดคุยกับคนที่นี้ให้ทั่ว เพื่อสอบถามว่าใครคือ นักปราชญ์ Domperi หลังจากคุยกับคนในป่าจนครบแล้วให้กลับมาคุยกับผู้เฒ่าที่กลางป่าอีกครั้ง แล้วเขาจะบอกว่าเขานี่แหละคือ Domperi หลังจากนั้นเขาก็จะให้ข้อมูลต่างๆที่ดูแรนควรรู้โดยเฉพาะสิ่งแรกที่ต้องทำคือ ตามหาภูติแห่งลมให้พบก่อน เมื่อคุยกันจบให้กลับไปขึ้นเรือที่ท่าเรือของ Jadd Stronghold เพื่อไปยังท่าเรือ Palo Port อีกครั้ง
TIP
ให้ลองย้อนกลับไปที่เมือง Lakeside Town Astoria เดินสำรวจซากเมืองจะเจอสุนัขตัวหนึ่งยืนอยู่ข้างบ้านที่อยู่ใกล้ๆสะพานที่จะข้ามไปยังเกาะเล็กๆ คุยกับสุนัขตัวนี้แล้วจะได้รับ Chain Ability: Narrow Escape มา
จากท่าเรือ Palo Port ให้ออกไปที่หุบเขา Heavensway แล้วเดินทางไปทางออกที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของหุบเขาจะออกมาสู่ Gusthall จะพบว่าเสาพลังลมถูกทำลาย เดินสำรวจไปตามทางทิศตะวันตกเรื่อยๆ แล้วดูแรนจะพบกับ Mana Stone แฟรี่จะบอกว่าดูแรนและเพื่อนๆสามารถเปลี่ยน Class กับ Mana Stone ได้แล้วในตอนนี้ (Class 2 ต้องการเลเวล 18 ขึ้นไป) ทางซ้ายของ Mana Stone จะเป็นทางไปยังจุดที่ภูติแห่งลมอยู่ เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอ Darkshine Knight กำลังจะสังหาร Sylphid ภูติแห่งลม ดูแรนจึงเข้าไปช่วยและบอส Harcypete LV20 จะปรากฏตัวออกมาโจมตีพวกดูแรน จัดการมันให้ได้ แล้วจะได้ ซิลฟิด ภูติแห่งลมเป็นพวก คุณจะสามารถใช้เวทย์ธาตุลมได้แล้วตอนนี้
บทที่ 8 แผนปลดปล่อยลอเรนท์
เมื่อได้ภูติลมมาแล้วให้กลับไปหา ริสซ์ ที่ที่หลบภัยทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหุบเขา Heavensway พอมาถึงจะพบริสซ์รออยู่ที่สวนดอกไม้ หลังจากนั้นซิลฟิดจะใช้ลมพัดกลีบดอกไม้เข้าไปในเมืองลอเรนท์ ทำให้กลุ่มโจรที่ยึดปราสาทอยู่หลับคาที่ แล้วกองกำลังอเมซอนก็บุกเข้าโจมตีเพื่อชิงปราสาทคืน ดูแรนจะเข้าร่วมการบุกครั้งนี้ด้วย โดยให้วิ่งไปด้านบนของปราสาทเรื่อยๆ แล้วจะพบฮอคอายเขาจะเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นในสมาคมโจรเนวาดา และตอนนี้เขาพยายามจะแก้ไขมัน คุยกันจบฮอคอายก็จะจากไป วิ่งไปตามทางต่อเรื่อยๆ จนมาพบกับริสซ์พลาดท่าถูกนินจา 2 คนทำร้าย ดูแรนจะเข้าไปช่วยนินจาจะหนีไปในห้องด้านใน วิ่งตามเข้าไปจะเจอกับบอส Zehnoa LV22 เมื่อจัดการบอสตัวนี้ลงได้ ทางไปต่อก็จะเปิดออก วิ่งไปตามทางอีกก็จะเจอกับ 2 นินจา Bil กับ Ben มันจะรวมร่างกันเป็นบอส Bil&Ben LV23 พอสู้ไปสักพัก มันจะแยกร่างออกมาเป็น Bil กับ Ben ตามปกติ เมื่อจัดการ 2 พี่น้องนี้ลงได้แล้ว ห้องด้านในจะได้พบกับ เบลลาดอนน่า ตัวการที่นำกองโจรบุกโจมตีเมืองลอเรนท์ โดยนางจะบอกว่าตนเองเป็นใครให้ดูแรนรับรู้แล้วก็วาร์ปหนีไป (เพื่ออะไรฟะ??)
ริสซ์ได้ปราสาทและเมืองลอเรนท์คืน เธอจะขอบคุณเรา จากนั้นเป้าหมายต่อไปคือ กลับไปยังอาณาจักรเวลเซน่า โดยเมื่อเดินทางมาถึงท่าเรือ Palo Port จะเจอเหตุการณ์ของฮอคอาย เมื่อคุยกันเสร็จให้ออกไปขึ้นเรือที่ท่า แล้วภาพจะตัดมาบนเรือพวกดูแรนตื่นขึ้นมาเพราะเกิดเรื่องแปลกๆขึ้นบนเรือ ออกจากห้องนอนเดินสำรวจเรือให้ทั่วๆ แล้วความจริงจะปรากฏว่า ดีออก! นี่ตูขึ้นเรือผีสิงมาเหรอเนี่ย!! เรือที่โดยสารมาแท้จริงแล้วเป็นเรือผีสิง จากนั้นให้ไปสำรวจเรือในชั้น 2 Ghost Ship II จะพบห้องๆหนึ่งที่มีโน๊ตติดอยู่หน้าห้องใจความว่าประตูจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อเก็บหนังสือ Blood Book, Death Diary, Curse Column และ Twilight Tome ครบทุกเล่ม ก็ให้สำรวจไปตามจุดต่างๆของชั้น 2 นี้ก็จะพบหนังสือปกสีแดงเรืองแสงอยู่ก็เก็บมา เมื่อครบแล้วประตูห้องดังกล่าวก็จะเปิดออก และด้านในห้องบนโต๊ะจะมีสมุดบันทึกเล่มหนึ่งเปิดอยู่เมื่อเข้าไปสำรวจ ดูแรนจะได้พบกับวิญญาณของ Metelo เขาจะขอบคุณที่ช่วยให้เขาพ้นคำสาป แต่คำสาปของเมเทโลจะถูกส่งต่อมายังดูแรนแทน และตอนนี้ดูแรนก็กลายเป็นวิญญาณไปเรียบร้อยแล้ว แฟรี่จะแนะนำว่าให้คนที่เหลือไปจัดการต้นตอของคำสาปซึ่งมันก็อยู่บนเรือลำนี่แหละ
ตัวเกมจะให้คุณบังคับตัวละคร 2 ตัวที่เหลือ ให้ขึ้นไปชั้น 3 ของเรือสำรวจตามทางไปจนเจอทางขึ้นชั้น 4 ที่ชั้นนี้จะมีประตูทางออกไปด้านอกตัวเรือ เมื่อออกมาด้านนอกจะเจอกับบอส Gova LV25 เอาชนะมันให้ได้แล้วจะรู้ว่าจริงๆแล้วมันคือ เชด Shade ภูติแห่งความมืดนั้นเอง คุณจะได้เชดเข้าไปพวกและสามารถใช้เวทย์ธาตุความมืดได้แล้ว ที่สำคัญคำสาปวิญญาณก็จะถูกลบล้างอีกด้วย เชดจะเล่าให้แฟรี่ฟังว่าทำไมเขาถึงมาสิงอยู่กับเรือลำนี่ หลังจากนั้นเรือผีสิงก็จะจมลงสู่ก้นทะเล และพวกของดูแรนก็ถูกน้ำทะเลซัดมาติดที่เกาะที่มีชื่อว่า Beuca Island มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกจะพบ เมือง Tomato Town เข้าไปคุยกับคนในเมืองนี้เขาจะแนะนำให้ดูแรนตามหาผู้พิทักษ์แห่งทะเล ออกจากเมืองเดินทางไปยังทิศตะวันตกของแผนที่ ที่สุดปลายทางจะเจอกับกองหินปิดปากถ้ำ โนมภูติดินจะออกมาช่วยเปิดทางให้ เข้าไปในถ้ำ Seaside Cavern เดินตามทางไปเรื่อยๆ จนเข้าไปถึงด้านในสุดของถ้ำ ดูแรนจะได้เจอใครบางคนที่จะมาทำลายโลกนี้ คุยกันจบถ้ำก็จะถล่มลงมาแต่โชคดีที่ผู้พิทักษ์แห่งทะเลว่ายน้ำพาพวกของดูแรนออกไป แถมยังว่ายน้ำมาส่งถึงชายหาดใกล้อาณาจักรเวลเซน่าอีกด้วย ดูแรนและพวกจึงรีบกลับไปพบพระราชา
บทที่ 9 ตามหาชิ้นส่วนของมาน่าสโตน
ไปที่ท้องพระโรงของปราสาทเวลเซน่า พระราชาจะเล่าให้ฟังว่ามาน่าสโตนอยู่ที่ไหนบนโลกนี้บ้าง คุยจบพระองค์จะมอบขลุ่ย Ferry Flute ไว้ใช้เป่าเรียก Vuscav ที่ชายหาด ออกจากท้องพระโรงไปพบกับวอนจัวร์ ใช้ปืนใหญ่ยิงส่งไปที่เมืองท่า Maia จากนั้นออกไปที่ถนน Golden Road เดินลงไปตรงชายหาดใกล้ๆ ทางออก แล้วกดใช้ขลุ่ย Ferry Flute เป่าเรียก Vuscav มารับ คราวนี้คุณจะสามารถเดินทางไปรอบทวีปได้อย่างอิสระแล้ว
TIP
ขลุ่ย Ferry Flute จะอยู่ในกระเป๋าไอเทมหมวด Key Item ให้ทำการติดตั้งขลุ่ยลงใน Ring Menu ก่อน หลังจากนั้นคุณก็จะสามารถกดใช้ขลุ่ยบนชายหาดได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ขี่เจ้าเต่าไปทิศเหนือสุดของทวีปก่อนจะพบชายหาดที่เชื่อมต่อกับเมือง Snow Hamlet Alrant ออกทางออกด้านขวาล่างของเมืองจะมาอยู่ที่ทุ่ง Frostbite Fields จากนั้นให้เดินตามทางไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ของแผนที่ พอเกือบไปสุดททางจะได้พบกับ Darkshine Knight มันจะส่งโกเลมออกมาโจมตีดูแรน 3 ตัว จัดการพวกมันให้หมดแล้ว เดินตาม Darkshine Knight เข้าไปในถ้ำ Labyrinth of Ice ดูแรนจะพบมาน่าสโตนตรงปากถ้ำเลย แล้วอันดีนภูติแห่งน้ำ จะปรากฏตัวออกมาขอเข้าเป็นพวก เมื่อสำรวจรอบๆจะพบว่าทางที่จะไปด้านในถูกปิดด้วยแท่งน้ำแข็งซึ่งดูแรนไม่สามารถทำลายมันได้ ให้เดินทางกลับมาที่เมือง Snow Hamlet Alrant ไปที่ชายหาดเรียกเจ้าเต่ามารับแล้วออกทะเลอีกครั้ง
จุดหมายต่อไปคือ ทะเลทราย Desert Capital Sirhtan ดินแดนทะเลทรายที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทวีป เมื่อลงจากเต่าแล้วดูแรนจะมาอยู่ในเมือง Sirhtan จากนั้นให้ออกจากเมืองทางประตูทิศตะวันออก จะมาอยู่ที่ทะเลทราย Burning Sands ให้มุ่งหน้าไปทางใต้สุดของแผนที่ จะพบกับเบลลาดอนน่าพาตัว เจสสิก้ามาด้วย แล้วดูแรนจะได้สู้กับ Bil&Ben อีกครั้ง เอาชนะนินจาทั้ง 2 ให้ได้แล้วเข้าไปในถ้ำ Fiery Gorge จากนั้นให้เดินสำรวจถ้ำลงไปทางทิศใต้ เมื่อมาจนสุดทางจะพบกับเบลลาดอนน่า ฮอคอายจะลอบโจมตีเธอทำให้เบลลาดอนน่าหนีไป แล้วฮอคอายจะพาเจสสิก้าออกจากถ้ำไป เดินเข้าไปด้านในจะเจอเบลลาดอนน่ากำลังดูดพลังงานของมาน่าสโตนจนหมด หลังจากนั้นซาลาแมนเดอร์ ภูติไฟจะปรากฏตัวออกมาขอเป็นพวก