บทสรุป Resident Evil 3 Remake

บทที่ 1: วันที่ 28 กันยายน 1998

          จิลล์จะตื่นขึ้นในค่ำคืนที่ฝนตกหนัก (ตัวเกมจะเป็นแบบมุมมองบุคคลที่ 1) ให้เดินสำรวจห้อง จากนั้นให้เข้าไปในห้องน้ำ ปิดก๊อกน้ำ แล้วจิลล์จะเห็นตัวเองที่กำลังกลายสภาพเป็นซอมบี้ในกระจก...จากนั้นจิลล์ก็ตื่นอีกครั้ง (จิลล์แค่ฝันไป) หันไปด้านซ้ายมือจะพบสวิทต์ไฟ กดเปิด แล้วจะพบเอกสาร Jill’s Report เก็บมาซะ สำรวจห้องอีกรอบ จะพบเอกสารอีก 2 ฉบับ จากนั้นให้เดินเข้าห้องน้ำเปิดสวิทต์ไฟ ตจิลล์จะส่องกระจกสำรวจตัวเองแล้วตัวเกมจะปรับมาเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 และอยู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ให้ออกไปรับโทรศัพท์ เบรดเป็นคนโทรมา เขาเตือนให้จิลล์รีบหนีไป แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไร จิลล์ก็ถูกบางอย่างโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว (ตรงช่วงนี้ตัวเกมจะให้เราเล่นสลับกับฉากคัทซีน) มอนสเตอร์ที่ไล่ล่าจิลล์จะตามอย่างไม่ลดละ ให้หนีตามทางไปเรื่อยๆ แล้วจิลล์จะกระเด็นออกจากตัวอาคารสู่ด้านนอกได้อย่างปลอดภัย
          เมื่อออกมาด้านนอกแล้วให้เดินไปตามทาง จิลล์จะได้พบกับแบรด (Brad) ที่วิ่งผ่านมาพอดี ทั้งคู่ได้พูดคุยทักทายกัน จากนั้นให้เดินตามเบรดไป จะเกิดเหตุการณ์ ซอมบี้ทำลายรั้วกันเข้ามา เบรดจึงเรียกให้จิลล์เข้าไปหลบในร้าน ระหว่างที่แบรดพยายามจะปิดประตูร้านก็โดนซอมบี้กัดเข้าที่แขนข้างซ้าย จิลล์รีบมาดูอาการของแบรด แต่เขาเองรู้ดีว่าปลายทางจะเป็นเช่นไร แบรดจึงบอกให้จิลล์ทิ้งเขาไว้แล้วรีบหนีไปซะ แบรดจะยืนกันปิดประตูไว้ให้ จิลล์จะวิ่งหลบออกมาทางด้านหลังร้าน ด้านไปตามทางจิลล์จะเก็บปืนจากศพของนายตำรวจที่ตายมาใช้ (ตรงนี้ตัวเกมจะสอนให้เราหัดยิงปืน) แล้วซอมบี้ตัวหนึ่งก็เดินออกมาจากหลังร้านที่จิลล์เพิ่งออกมา (ไม่ต้องสืบแบบนี้แบรดคงเป็นอาหารซอมบี้ไปเรียบร้อย) จะยิงมันทิ้ง หรือ จะหันหลังหนีไปก็ได้ จากจุดที่เก็บปืนได้วิ่งตามทางไปเรื่อยๆ จะพบประตูให้เข้าไปด้านใน เดินไปตามทางอีกเล็กน้อยจะเป็นประตูทางเข้าอาคารหลังหนึ่ง เมื่อเข้าไปจะพบผู้รอดชีวิตหนึ่งคน เมื่อตาลุงเห็นจิลล์ก็รีบวิ่งเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์แล้วปิดประตูใส่หน้า พร้อมไล่ให้จิลล์ไปให้พ้น (ตรงนี้จะพูดคุยกับมนุษย์คนนี้ก็เราจะได้รู้จักชื่อเขา แต่ถ้าไม่อยากคุยก็ปล่อยมันเน่าในตู้ไป) 
          ให้ออกจากอาคารด้วยประตูที่อยู่ด้านหลังตู้คอนเทนเนอร์ (ก่อนออกอย่าลืมเก็บกระสุนด้านขวามือ) วิ่งไปตามทางเรื่อยๆ เส้นทางจะพาจิลล์ไปยังลานจอดรถของตึกแห่งหนึ่ง ด้านในจะพบลิฟ ให้ไปกดเปิดประตูลิฟ จะพบซอมบี้ 2 ตัวเดินออกมา แนะนำให้ถอยหลังรอจังหวะที่ซอมบี้ออกห่างจากประตูลิฟสักหน่อยจากนั้นค่อยวิ่งหลบไปด้านซ้ายมือ แล้วรีบกดปุ่มเปิดประตูลิฟจิลล์จะหนีเข้าลิฟไปอย่างรวดเร็ว เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนจิลล์จะพบเฮลิคอปเตอร์บินผ่านมาพอดี คนขับฮอเห็นจิลล์เขาจึงลงจอดรอรับจิลล์ ให้วิ่งไปตามทาง ฮอจะถูกเนเมซัสยิงจนระเบิด จิลล์หนีขึ้นไปขับรถหวังจะชนให้เนเมซิสตาย แล้วทั้งคู่ก็จะตกจากตึกลงมาที่ถนนด้านล่าง ผลปรากฏว่าเนเมซิสไม่ตายจ้า จิลล์ต้องรีบหนีออกจากรถ แล้วก็มีคนเข้ามาช่วยจิลล์ให้พ้นจากมือของเนเมซิสไปได้

          คาลอสพาจิลล์หนีลงมาด้านในสถานีรถไฟใต้ดิน และเขาก็แนะนำตัวว่าเป็นทหารรับจ้างสังกัดหน่วย U.B.C.S ของ Umbrella เดินไปตามทางจนพบรถไฟที่จอดอยู่ เข้าไปด้านในจิลล์จะได้พบกับมิคาเอล หัวหน้าของคาลอส ภายในรถไฟขบวนนี้มีผู้รอดชีวิตอยู่หลายคน มิคาเอลจึงขอร้องให้จิลล์ช่วยไปซ้อมแหล่งจ่ายพลังงานของรถไฟให้หน่อย เขาตั้งใจจะพาผู้รอดชีวิตเหล่านี้หลบหนีออกไปให้ได้ จิลล์ตอบรับคำขอ คาลอสจึงมอบวิทยุสื่อสารให้จิลล์ไว้ใช้ติดต่อกัน 
          ให้ออกจากรถไฟด้วยประตูที่อยู่ด้านซ้ายบน ขึ้นบันไดเดินไปตามทางเรื่อยๆ จิลล์จะมาถึงห้องเซฟ เก็บไอเทมต่างๆที่อยู่ในห้องแล้วทำการเซฟที่เครื่องพิมพ์ดีด เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วให้ออกทางประตูเลื่อนที่เปิดอยู่ครึ่งเดียว จิลล์จะออกมาอยู่ด้านหน้าร้านขายหนังสือ ด้านซ้ายมือจะมีซอมบี้เดินออกจากซอยมา 1 ตัว ให้จิลล์เข้าไปในซอยนี้แล้ววิ่งไปตามทางจะได้ยินเสียงร้อง ให้ค่อยๆเดินจะพบซอมบี้ 2 ตัวขวางทางออกไว้จัดการมันซะ เมื่อเปิดประตูออกมาแล้ว จิลล์จะมาอยู่ด้านหน้าร้าน Raccoon Toon ให้เดินตรงขึ้นไปด้านบนไม่ต้องสนใจซอมบี้ข้างทาง จิลล์จะวอร์ไปหาคาลอสปรึกษาเรื่องเจอแหล่งจ่ายไฟรถไฟใต้ดินแล้ว แต่เส้นทางที่จะไปมีไฟไหม้อยู่ จิลล์ต้องหาทางดับไฟเพื่อไปต่อให้ได้ จากจุดที่ยืนคุยวอร์ให้หันหลังกลับจะเกิดเหตุหารณ์ซอมบี้ 3 ตัวทำลายรั่วกั้น (อีกแหละ) ไม่ต้องรีบร้อน จะเห็นว่ามีถีงน้ำมันสีแดงอยู่ด้านขวามือบริเวณที่มีรถจอดอยู่ รอจังหวะที่ซอมบี้ 3 ตัวเดินมาใกล้ถังน้ำมันแล้วยิงให้ถังระเบิดซะ จากนั้นให้ใช้ทางที่ซอมบี้เปิดเป็นเส้นทางไปต่อ โดยให้แวะที่ร้าน Moon Donuts ก่อนเพราะในร้านจะมีห้องเซฟ

 

          ภายในห้องเซฟ ของร้าน Moon Donuts จิลล์จะได้พบกับกล่องใส่อัญมณีสีแดง (Red Jewel) ด้วย จากนั้นให้ออกจากร้าน Moon Donuts ด้วยประตูด้านซ้าย (ประตูฝั่งตรงข้ามกับที่เข้ามาครั้งแรก) จะมาโผล่ด้านหลังร้าน ระวังให้ดีตรงนี้มีซอมบี้อยู่ประมาณ 5-8 ตัว จากหลังร้านเดินไปทางขวามือจะพบทางเข้า Subway Control Room (ประตูสีส้ม) ด้านในจะมีสายดับเพลิง (Fire Hose) อยู่บนพื้นเก็บมันมาซะ ในห้องจะมีปืน Shotgun อยู่บนผนังด้านขวา ยังเก็บไม่ได้จนกว่าจะมีที่ตัดโซ่ (Bolt Cutters) เมื่อได้สายดับเพลิงมาแล้ว ให้ออกจากที่นี่ ไปทางด้านซ้ายจะเจอร้านขายยาเข้าไปสำรวจ ด้านในร้านจะมีโปสเตอร์ใหญ่ๆติดอยู่ให้สังเกตที่เบอร์โทรบนโปรเตอร์ให้ดี มันคือรหัสตู้เซฟ จดและจำมันไว้ ออกจากร้านขายยา จะจเอบันไดทางขึ้นซึ่งมันจะพาไปยังห้องเก็บของที่นี่จะเจอตู้เซฟ เปิดด้วยการหมุนรหัสตามที่ได้มาจากร้านขายยาได้เลย จากนั้นให้ออกประตูหลังของห้องเก็บของ จะออกมาอยู่ทางหนีไฟหลังตึก เดินตามทางไปเรื่อยๆ จะเจอทางลงด้านขวา ไม่ต้องลง ให้เดินไปต่อจะเจอบันไดขึ้นมาอยู่บริเวณดาดฟ้าของตึกที่เต็มไปด้วย คอมเพรสเซอร์แอร์ เดินไปตามทาง (ระวังซอมบี้ด้วย) จะเจอบันไดสีเหลืองเป็นทางลง ตรงกับจุดที่ไฟไหม้พอดี

 

          ลงไปเปิดประตูตรงจุดที่ไฟไหม้จะเห็นหัวท่อดับเพลิงอยู่ สำรวจแล้วใส่สายดับเพลิงซะ จิลล์จะเปิดน้ำดับไฟแล้วจะสามารถไปต่อได้ เดินไปตามทางจะเจอประตูทางเข้าร้านซ่อมรถ Repair ด้านในเป็นห้องเซฟ มีที่ตัดโซ่ด้วยเก็บมาซะ จากนั้นให้ตัดโซ่ที่ประตูอีกปานออกซะ จะออกมาอยู่โรงซ่อมรถ จิลล์จะได้พบกับเมอร์ฟี่ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทันใดนั้นนิโคไลก็ปรากฎตัวมายิงเขาทิ้งซะงั้น (ข้างๆศพเมอร์ฟี่มีบันทึกการฝึกตกอยู่เก็บด้วยนะ) ให้ขึ้นบันไดไปออกประตูด้านบน จิลล์จะมาอยู่หลังร้านเดินไปตามทาง จะได้ยินเสียงหมาหอน แล้วจะมีเซอร์เบรัส 2 ตัววิ่งเข้ามาทำร้ายจิลล์ จัดการมันซะแล้วเดินไปต่อ จิลล์จะมาถึงอาคาร Subway Power Substation ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของรถไฟใต้ดิน เข้าไปด้านในอาคารสำรวจให้ทั่ว จะพบว่าเบรคเกอร์ทั้ง 4 ตัวดับทำให้ไม่มีกระแสไฟไปเลี้ยงรถไฟใต้ดิน จิลล์จึงต้องออกไปแก้ไข โดยให้ออกจากประตูด้านหลังของห้องควบคุม จิลล์จะมาอยู่ในเขตพื้นที่ผลิตกระแสไฟซึ่งตอนนี้มันกลายสภาพเป็นรังของตัวอะไรสักอย่างไปแล้ว เดินลงบันไดไป ด้านขวาจะพบ Greeb Herb 2 ต้นพร้อมบันทึกที่เขียนเกี่ยวกับมัน เก็บมาให้หมด ตรงประตูจะถูกล็อคด้วยแม่กุญแจใหญ่สีเหลืองซึ่งต้องใช้ Lock pick ในการปลดล็อค สังเกตศพที่นั่งตายด้านซ้ายบนให้ดีๆ เดินไปสำรวจที่ศพชายคนนี้จะได้กล่องซึ่งข้างในมี Lock Pick เอามันมาเปิดประตูซะ

          ขณะที่เปิดประตูเพื่อเข้าไปด้านใน จิลล์จะถูกแมงกลายพันธ์ุโจมตีด้วยการใส่ตัวอ่อนเข้าไปในร่างกาย วิธีแก้คือ ให้กิน Green Herb แล้วจิลล์จะอ้วกมันออกมาจนหมด (ตามบันทึกที่เก็บมาเขียนอธิบายไว้ว่า แมลงพวกนี้แพ้ Green Herb) เมื่อเข้ามาด้านในแล้ว สำรวจทางหา เบรคเกอร์ให้เจอแล้วสับสวิทต์ให้มันทำงานทั้ง 4 ตัว เมื่อครบแล้วให้รีบออกมาทันที

Tip: เปิดเบรคเกอร์
-เมื่อเก็บ Green Herb มาแล้วห้ามผสม ให้เก็บเป็นต้นๆไว้ เพราะระหว่างทางที่วิ่งหาเบรคเกอร์นั้น มีโอกาสที่จะถูกแมลงกลายพันธุ์โจมตีแบบฝังตัวอ่อนหลายครั้ง หากเอา Green Herb ไปผสมรวมกันหมดจะไม่พอใช้แก่พิษปรสิต

          กลับไปที่ห้องควบคุมจะเห็นว่าตอนนี้ระบบไฟฟ้าของรถไฟใต้ดินกลับมาทำงานตามปกติแล้ว จิลล์จะวอร์หาคาลอสแจ้งผลการทำงาน จากนั้นคาลอสจะบอกให้จิลล์ไปตั้งค่าเส้นทางเดินรถไฟใต้ดินที่ Subway Control Room, เมื่อออกมาจากอาคาร Subway Power Substation ได้ไม่ถึง 10 ก้าว เนเมซิสจะทำลายกำแพงออกมาดักหน้าทันที มี 2 ทางเลือกคือ หนีไปตามทางเรื่อยๆ หรือ ยืนหยัดสู้!! (ถ้าชนะจะได้พาร์ทอัพเกรดปืนพก Handgun หรือสุ่มได้ไอเทมอื่นๆ)  

Tip: หากท่านเลือกสู้
-Shotgun กับ ระเบิดมือ เป็นตัวเลือกที่ดีในการล้มเนเมซิสในรอบนี้ และจุดสังเกตสำคัญคือ ยิงไปที่กล่องบนหน้าอกด้านซ้ายของมัน และถ้าหากมันเอามือขึ้นมาปิดกล่องไว้ในหยุดยิง แล้ววิ่งวนรอจังหวะที่มันเอามือออกค่อยยิงที่กล่องนั้น

          วิ่งไปตามทางจนกลับมาอยู่ที่ร้านซ่อมรถ และเมื่อออกจากร้านซ่อมรถย้อนกลับไปร้าน Moon Donuts  จิลล์จะเจอเนเมชิสมาดักอีกรอบ ครั้งนี้ให้วิ่งฝ่าไปเข้าร้าน Moon Donuts ออกหลังให้ได้ จากหลังร้านไปทางขวาเพื่อไปยัง Subway Control Room มีซอมบี้ดักทางอยู่เช่นกันระวังให้ดี เมื่อเข้าไปด้านในอาคารแล้ว เนเมซีสจะเลิกตามชั่วคราว จากนั้นให้ไปยังห้องึควบคุมด้านใน สำรวจเครื่องควบคุมตรงกลางห้อง แล้วตั้งค่ารหัสเส้นทางเดินรถ RE-01, FA-02, RA-03, SA-02 และ FO-01 การตั้งค่าเส้นทางเดินรถเป็นอันเรียบร้อย
          คาลอสจะบอกให้จิลล์รีบกลับไปที่รถไฟใต้ดิน เมื่อจิลล์ออกจากร้าน Moon Donuts จะเห็นเนเมซิสกำลังทำให้ซอมบี้กลายพันธุ์พอดี รอบนี้ก็เช่นเดิมจะหนี หรือ จะสู้ เลือกเอา...จุดหมายคือ วิ่งกลับไปยัง Subway Station ให้ได้ โดยเมื่อเข้ามาด้านในแล้วจิลล์จะเลื่อนประตูเหล็กลงเพื่อปิดทางไม่ให้เนเมซิสเข้ามาได้ หลังจากที่ลงไปที่รถไฟแล้วจะได้พบกับคาลอส และนิโคไลก็จะกลับมาสมทบด้วย แต่ไม่ได้มาคนเดียว มันพาเนเมซิสมาด้วย!! จิลล์จึงตัดสินใจที่จะเป็นเหยื่อล่อให้เนเมซิสตามเธอไป คนที่อยู่ในรถไฟใต้ดินจะได้ปลอดภัย ให้วิ่งหนีไปตามทางจะเข้ามาในห้องที่เหมือนจะเป็นทางตัน แต่ให้สังเกตดีๆ จะมีช่องระบายอากาศที่มีฝาปิดสีเหลืองอยู่ จิลล์สามารถผังมันเพื่อใช้เป็นทางออกได้ แต่ต้องทุบแรงๆถึง 2 ครั้ง ดังนั้นควรจัดการกับเจ้าเนเมซิสที่ตามหลังมาติดๆก่อน โดยล่อมันไปตรงถังน้ำมันสีแดงแล้วยิงให้ถังระเบิดใส่มันซะ จะช่วยให้จัดการมันได้ง่ายขึ้น จัดการเนเมซิสเรียบร้อยก็รีบทุบฝาสีเหลืองหนีออกมา จะพบว่าตอนนี้จิลล์ได้มาอยู่ในทางระบายน้ำเรียบร้อยแล้ว…
          จากจุดที่ลงมาทางด้านซ้ายมือจะเป็นห้องเซฟ ซึ่งภายในห้องจะมีแผนที่ของทางระบายน้ำอยู่บนบอร์ดด้วยเก็บมาซะ ออกจากห้องเซฟเดินไปตามทางจะประตูเหล็กสีฟ้าที่ต้องใช้ แบตเตอรี่ (Battery pack) ในการเปิดประตู ก็ให้จิลล์ไปทางซ้ายมือจะมีทางสไลด์ลงไปด้านล่างได้ เมื่อลงอยู่ในน้ำแล้วในเดินไปตามทางจะเจอทางแยกขวา ไม่ต้องไปสนใจให้เดินหน้าตรงต่อไป แต่ตรงนี้ให้ระวังตัวให้ดีจะมีเพื่อนใหม่แวะมาทักทายจำนวน 1 ตัว จัดการมันให้ได้แล้วเดินตรงไปอีกจนเจอบันไดทางขึ้น แล้วจะพบประตูทางเข้า ออฟฟิศ (Office) ด้านในเป็นห้องเซฟและที่นี่จะมีปืน MGL Grenade Launcher ให้เก็บพร้อมเอกสารสูตรการผสมลูกกระสุนแบบต่างๆด้วย

 
          เดินย้อนกลับมาตรงทางแยก รอบนี้ให้แล้วเข้าแยกที่ครั้งแรกเดินผ่านไปได้เลย แต่ระวังด้วยมีเพื่อนดักอยู่ 1 ตัวเช่นเดิม (หลังจากตรงนี้ไปตามทางจะมีมอนสเตอร์ดักโจมตีเป็นระยะๆ) เดินไปตามทางจนถึง Lap ที่นี่จะมีแบตเตอรี่ (Battery Pack ใช้พื้นที่ 2 ช่อง) ให้เก็บ จากนั้นให้กลับไปตรงจุดที่จิลล์สไลด์ลงมา จะพบบันไดสีเหลือง ขึ้นบันไดไปจะเจอประตูที่ต้องใช้แบตเตอรี่เปิด เข้าไปในห้องแล้วเดินวนไปซ้ายมือจะเจอประตูเหล็กสีเหลืองเปิดซะ แล้วออกไปถอดแบตเตอรี่ออกจากประตู กลับเข้ามาทางประตูเหล็กสีเหลือง สำรวจห้องจะเจอประตูเหล็กสีฟ้าใส่แบตเตอรี่เข้าไปเก็บของด้านในซะ (มีกระเป๋าเพิ่มช่องใส่ของด้วยนะในนั้น) ออกมาแล้วก็อย่าลืมถอดแบตเตอรี่เกลับมาด้วย จากจุดที่ยืนให้เดินตรงไปจะพบบันไดสีเหลืองใช้มันลงไปด้านล่าง จะพบว่าจิลล์กลับมาอยู่ตรงจุดแรกก่อนที่จะสไลด์ลงไปในน้ำนั้นเอง คราวนี้ก็ใช้แบตเตอรี่เปิดประตูเพื่อไปต่อได้เลย…
          เดินไปตามทางจะพบทางขึ้นไปด้านบน แต่สิ่งที่รอเราอยู่ก็คือ เนเมซิสไฟเยอร์!!! ตั้งสติแล้วหนีเข้าไปในตึกทางด้านซ้าย ขึ้นไปชั้นบนเรื่อยๆ เนเมซิสจะใช้ไฟเผาไล่ให้จิลล์รีบขึ้นไปด้านบนสุด ตรงนี้จะเป็นเวทีการต่อสู้ระหว่างจิลล์กับเนเมซิสอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก ใช้ความสามารถที่มีล้มเนเมซิสลงในได้ แล้วจิลล์จะกระเด็นตกตึกลงมา

 

          จากจุดที่ยืนอยู่ให้เดินไปด้านซ้าย แล้วทางจะพาจิลล์มาถึงรถดับเพลิง ปีนขึ้นรถดับเพลิง เพื่อใช้มันเป็นทางเชื่อมกลับไปยัง Subway Station อีกครั้ง เมื่อลงจากรถดับเพลิงแล้วให้จิลล์วิ่งไปที่ร้าน Gun Shop Kendo ที่อยู่มุมด้านซ้ายบน ภายในร้านมีของในเก็บเพียบ แล้วถึงจิลล์จะได้พบเคนโด้เจ้าของร้านที่หลบอยู่ที่นี่ด้วย จิลล์ชวนเคนโด้ให้หนีไปด้วยกัน แต่เคนโด้เหมือนจะมีห่วงอะไรบางอย่างอยู่ (ด้วยเหตุนี้ทำให้แคลร์กับลีออนมาเจอเคนโด้ที่ร้านนี้ใน RE2 เพราะไม่ยอมไปกับจิลล์) เมื่อเคนโด้ปฏิเสธเขาจะกลับเข้าห้องด้านหลังร้านไป ให้จิลล์เก็บกุญแจ Kendo’s Gate Key จากกล่องบนผนังมาซะ จากนั้นออกจากร้านไปจะพบประตูไปต่ออยู่ด้านซ้ายของร้านนี้ ใช้กุญแจที่พึ่งเก็บมาไขเปิดประตูแล้วไปต่อซะ เส้นทางจะพาจิลล์เข้ามาในบ้านหลังหนึ่ง บนชั้น 2 จะมีของให้เก็บ จากนั้นให้ออกจากบ้านด้วยประตูหน้า แล้วเนเมซิสจะปรากฎตัวออกมาพร้อมของเล่นใหม่ ปืนยิงจรวด!! รอบนี้ให้วิ่งนี้ยาวไป เส้นทางจะพาจิลล์กลับมาอยู่หน้า Subway Power Substation อีกครั้ง เนเมซิสจะยิงจนรถตำรวจกระเด็นมาปิดทางหนีไม่ให้จิลล์ถอยกลับได้ ดังนั้นต้องเดินหน้าหลบจรวดไปจนสุดทางซ้ายมือ เนเมซิสจะยิงจรวดใส่จนจิลล์กระเด็นตกลงมาอีกฝั่งของถนน จากจุดที่ตกลงมาให้ขึ้นบันไดทางด้านขวามือเพื่อไปต่อ วิ่งไปตามทางจะมาอยู่บนดาดฟ้าของตึกที่อยู่หน้าร้าน Moon Donuts นั้นเอง เดินไปตามทางลงบันไดมาตรงหน้าร้าน Moon Donuts แล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งขึ้นบันไดไป เนเมซิสจะยิงจรวดทำลายหัวตุ๊กตายักษ์ตกลงมา ให้จิลล์วิ่งย้อนกลับไปทางเดิมที่ลง แล้วจะเห็นหัวตุ๊กตากลิ้งไปทับร้าน Moon Donuts ผังยับ ให้วิ่งกลับไปทางที่หัวตุ๊กตากลิ้งมาแล้วเลี้ยวขวา จะเป็นทางไป Subway Station คาลอสยืนรอจิลล์อยู่แล้วทั้งคู่ก็พากกันวิ่งหนีเนเมซิสไปด้วยกันจนเข้ามาใน สถานีรถไฟใต้ดินได้สำเร็จ

บทที่ 2: วันที่ 29 กันยายน 1998

 

          คาลอสกับไทเรลล์ได้รับภารกิจใหม่ คือ การมาสำรวจสถานีตำรวจ Raccoon City โดยทั้งคู่ได้มาพบเหตุการณ์ที่แบรดกลายเป็นซอมบี้ไล่กัดนายตำรวจคนหนึ่งหน้าสถานีตำรวจพอดี (ตำรวจที่โดนแบรดกัดพุงก็คือ มาร์วิน นายตำรวจคนสุดท้ายที่ลีออนกับแคลร์เจอใน RE2) หลังจากที่นายตำรวจคนนั้นวิ่งหนีเข้าสถานีตำรวจไป คาลอสก็ต้องรับมือกับแบรดแทน จัดการเขาซะ แล้วเก็บ ID Card จากศพแบรดมาด้วย จากนั้นให้ตามไทเรลล์เข้าไปในสถานีตำรวจ เขาจะเรียกให้คาลอสไปดูแผนผังห้องทำงานของหน่วย S.T.A.R.S เพราะเป้าหมายของภารกิจนี้อยู่ที่นั่น จากนั้นให้เดินเข้าห้อง Reception ที่อยู่ด้านซ้าย บนเก้าอี้จะพบกล่องอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ID Card เปิด ก็ใช้บัตรของแบรดที่เก็บมาเปิดมันซะ เดินไปทางออกด้านหลังห้องนี้จะเกิดเหตุการณ์ที่นายตำรวจ 2 คนกำลังโดนตัวอะไรบางอย่างทำร้ายจนตาย จากจุดที่ตำรวจ 2 คนตายให้เดินไปเรื่อยๆ จะมาถึงห้อง Operation Room สำรวจแล้วเปิดประตูด้านในเข้ายังห้องต่อไป บริเวณนี้มีซอมบี้อยู่หลายตัวระวังด้วย ให้เข้าไปสำรวจ West Office จะพบกล่องอุปกรณ์เปิดแล้วจะได้พาร์ทแต่งปืนมา ออกจากห้องนี้ไปยังห้อง Dark-room ที่นี่จะเป็นห้องเซฟ และมีเอกสารรหัสตู้เซฟที่อยู่ในห้อง West Office ด้วย (รหัส ซ้าย 9, ขวา15, ซ้าย 7) ออกจาก Dark-room ขึ้นบันไดไปชั้น 2 จะเจอห้องอาบน้ำอยู่เลยทางขึ้นชั้น 3 ไปเล็กน้อย เมื่อเข้าไปสำรวจในห้องอาบน้ำจะเจอล็อกเกอร์ปิดอยู่ รหัสปลดคือ CAP ตรงกำแพงห้องอาบน้ำมีคนทำระเบิด C4 ติดไว้อยู่แต่ระเบิดไมาทันงานเพราะขาดแบตเตอรี่ คราวนี้ให้ขึ้นบันไดไปชั้น 3 จะเจอกุญแจห้อง Safety Deposit Room ตั้งอยู่บนกล่อง และด้านในจะมีล็อกเกอร์ที่ต้องใช้รหัสปลด เก็บกุญแจแล้วย้อนกลับไปที่ห้อง Safety Deposit Room ที่หน้าห้องคาลอสจะได้เจอริกเกอร์ จัดการมันก่อนแล้วค่อยใช้กุญแจไขเข้าไปในห้อง  Safety Deposit Room ที่ห้องนี้บอร์ดด้านขวาจะมีรูปถ่ายรหัสของล็อกเกอร์ชั่น 3 ติดอยู่ (รหัส DCM) ให้ไปสำรวจดูหมายเลขของตู้เก็บของแล้วใช้แป้นตรงใกล้ๆประตูกดเปิดเพื่อเอาของ แบตเตอรี่ (Battery) ที่คาลอสต้องการอยู่ในตู้ 104 เมื่อได้แบตเตอรี่มาแล้วให้ย้อนกลับไปที่ห้องอาบน้ำชั่น 2 สำรวจที่ระเบิด C4 แกะส่วน Electronic Gaget ออกมา แล้วนำมันประกอบเข้ากับแบตเตอรี่ จากนั้นติดลงไปที่ตัวละครเปิด C4 อีกครั้ง ระเบิดเวลาก็จะทำงาน หาที่หลบให้ทันแล้วกำแพงห้องอาบน้ำก็กลายเป็นรูที่ใช้ผ่านไปยังห้องทำงานของหน่วย S.T.A.R.S ได้แล้ว

 

          ภายในห้องทำงานหน่วย S.T.A.R.S คาลอสเข้ามาเจอคอมพิวเตอร์ที่หน้าจอแสดงว่ามี VDO Call ติดต่อเข้ามาอยู่ คาลอสจึงกดรับแล้วก็ได้รู้ว่าคนๆนั้นคือ ด๊อกเตอร์บาร์ด หนึ่งในนักวิจัยของ Umbrella และเขาน่าจะเป็นเป้าหมายที่คาลอสออกมาตามหา ไทเรลล์จึงอาสาขอแกะรอยที่อยู่ของด๊อกเตอร์บาร์ดเอง เดินสำรวจในห้องแล้วเดินออก จิลล์จะวอร์เข้ามาหา....

          ภาพตัดมาที่จิลล์ซี่งฟื้นสติคืนมา เดินไปตามทางจะพบประตูเปิดเข้าไปจะเป็นห้องเซฟ เตรียมกระสุนเตรียมยาให้พร้อม แล้วออกประตูทางด้านบนซ้าย เดินตามทางไปเรื่อยๆ จะขึ้นมาอยู่ตรงบริเวณสวนใกล้ๆ Clock Tower Plaza อย่ารีบเดินข้ามสะพาน ให้สำรวจหาไอเทมบริเวณสวนให้หมดก่อน แล้วค่อยเดินขึ้นสะพานไป จิลล์จะวอร์หาคาลอส แล้วเพื่อนเก่าอย่างเนเมซิสก็จะวิ่งตัวติดไฟออกมาแล้วตกไปในแม่น้ำ แต่มันไม่ตายจ้า มันโผล่ขึ้นจากน้ำมาไล่ทุบ ให้วิ่งตามทางไปจนจิลล์มาอยู่ลานกว้างหน้า Clock Tower การต่อสู้แบบจัดเต็มกับเนเมซิสร่าง 2 ก็เริ่มตรงนี้เอง เอาชนะมันให้ได้ สุดท้ายของการต่อสู้จิลล์จะถูกพิษไวรัสจากเนเมซิสสลบไปครึ่งวัน คาลอสตามมาเจอแล้วแบกจิลล์ไปที่โรงพยาบาล Spencer Memorial Hospital เพื่อหาวัคซีนรักษา

          คาลอสพาจิลล์เข้าไปนอนพักที่ห้อง Makesshift Sickroom ของโรงพยาบาล เก็บของภายในห้อง เซฟให้เรียบร้อย ออกจากห้องนี้แล้วเลี้ยวขวาเข้าประตูไป ทางเดินจะพาคาลอสมาอยู่ที่ห้อง Reception จัดการซอมบี้ให้หมด แล้วออกประตูด้านซ้ายบนแล้วเลี้ยวขวาเดินไปตามทางเดิน จะเจอประตูเปิดเข้าไปจะเป็นห้อง Lab Reception บริเวณเคาน์เตอร์จะพบเครื่องเล่นเทป (Tape Player) เป้าหมายของคาลอสคือ เปิดประตูห้องที่อยู่ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์นั่นเอง แต่ห้องนี้ใช้ระบบ Voice Match ทำให้คาลอสเปิดไม่ได้ จึงต้องไปค้นหาเทปเสียงเพื่อนำมาใช้กับเครื่องเล่นเทปที่เก็บได้เมื่อครู่นี้ จากเคาน์เตอร์ให้เลี้ยวไปทางซ้ายจะมีประตูเชื่อมไปยังห้อง Emergency Entrance จัดการซอมบี้ให้หมด (ไอ้ตัวที่อยู่ในกระจกไม่ต้องไปสนใจ) ด้านในจะพบประตูห้องที่ต้องใช้คีย์การ์ด (Key Card) ในการเปิดตรงนี้ให้ผ่านไปก่อน ให้ไปต่อโดยใช้ประตูด้านซ้ายของห้อง Emergency Entrance ออกมาแล้วเลี้ยวขวาขึ้นบันไดไปชั้น 2 

            ณ ชั้น 2 ให้เดินผ่านไปตามทาง จะต้องเดินไปด้านหลังคา (Roof) ด้วย คาลอสจะมาอยู่ตรงทางแยก ให้เลี้ยวซ้ายก่อน จะพบห้อง Records Room ด้านหน้าห้องนี้สำรวจที่บอร์ดประกาศ จะได้แผนที่ของโรงพยาบาลมา จากนั้นเข้าห้อง Records Room (ห้องเซฟ) สำรวจและจัดของให้เรียบร้อย ออกจากห้องนี้มาเดินตรงไปจะเจอห้อง Staff Room สำรวจด้านในจะพบเอกสารติดอยู่ใกล้ๆ ประตูหลังห้องแจ้งว่า ID Card เก็บอยู่ด้านในห้อง Locker นี้ แต่ตอนนี้ประตูล็อกอยู่เข้าไปไม่ได้ คาลอสต้องไปตามหากุญแจมาเปิด ให้ออกจากห้องนี้เดินไปยืนอยู่หน้าห้อง Nurses’ Station (อย่าพึ่งเข้าห้องนะ) ทางด้านขวาจะเห็นว่ามีกระจกแตกอยู่ คาลอสสามารถกระโดดลงไปจากตรงนี้ลงไปในสวนได้ เมื่อลงมาในสวนแล้วสำรวจให้ทั่วจะเจอกุญแจ Locker Room Key ตกอยู่ที่พื้น เมื่อได้กุญแจมาแล้วก็ย้อนกลับไปที่ห้อง Staff Room อีกรอบได้เลย

 

          ใช้กุญแจไขประตูหลังห้อง Staff Room เปิดเข้าไปด้านในจะเจอตู้ล็อกเกอร์ สำรวจให้ทั่วจะได้ Hospital ID Card ของ John Ralph มา จากนั้นให้ออกจากห้องนี้ คาลอสจะถูกฮันเตอร์ สัตว์กลายพันธุ์โจมตี จัดการมันซะ และหลังจากนี้เราจะถูกพวกมันตามล่า!! เป้าหมายต่อไปคือ ห้อง Nurses’ Station เข้าไปในห้องนี้ (รหัสตู้เซฟในห้องนี้หมุนซ้ายให้ถึงเลข 9 แล้วหมุนขวาให้ถึงเลข 3) ด้านขวาจะมีประตูที่ต้องใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าไป ผ่านประตูมาแล้วจะเห็นว่าด้านในห้องกระจกมีฮันเตอร์อยู่ 2 ตัว ซึ่งเทปบันทึกเสียงที่คาลอสต้องการอยู่ในห้องนี้!! เดินไปตามทางจะเข้ามาอยู่ในห้อง Linen Room จัดการซอมบี้ให้เรียบร้อย แล้วจะมีประตูอยู่สองปาน ประตูซ้ายสีเหลืองคือ ทางออกไประเบียงทางเดิน, ประตูขวาสีเขียว คือประตูห้อง Treatment Room ที่มีฮันเตอร์รอคุณอยู่ เข้าไปลุยกับพวกมันซะ เมื่อจัดการฮันเตอร์ได้เรียบร้อยแล้ว ให้ไปสำรวจตรงบริเวณเตียงด้านในสุดของห้องนี้จะพบเทปบันทึกเสียง (Audiocassette Tape) เอามันรวมเข้ากับเครื่องเล่นเทปซะ จากนั้นให้รีบไปยังห้อง Lab Reception ที่ชั้น 1

 

         ที่หน้าห้อง Lab Reception กดใช้เครื่องเล่นเทปกับเครื่องสแกนเสียง ประตูจะเปิดให้เข้าไป ด้านในคาลออสจะพบด๊อกเตอร์บาร์ดที่ถูกยิงตาย คาลอสจะวอร์ไปหาไทเรลล์ เขาจะแนะนำให้คาลอสไปสำรวจคอมพิวเตอร์ที่อยู่ด้านในของห้องนี้ดู เมื่อคาลอสสำรวจคอมพิวเตอร์แล้วจะได้เห็นไฟล์วิดีโอที่ด๊อกเตอร์บาร์ด เล่าสาเหตุที่มาของการแพร่กระจายของไวรัส คาลอสจะชกไปที่จอคอม แล้วระบบจะช๊อตจนประตูห้องเก็บตัวอย่างวัคซีนเปิดออกเอง (เปิดเองซะงั้น -..-) จะพบตัวอย่างวัคซีนรักษา (Vaccine Sample) อยู่ในตู้ด้านซ้าย เก็บมันมาแล้วรีบนำกลับไปรักษาจิลล์

             
           เมื่อฉีดวัคซันรักษาให้จิลล์แล้ว ไทเรลล์จะเข้ามาหาคาลอสพร้อมกับเปิดโทรทัศน์ที่มีการประกาศเตือนว่าในวันที่ 1 ตุลาคมจะมีการยิงมิสไซล์ทำลายเมือง Raccoon (จากในจอทีวีจะทำให้เรารู้ว่าวันนี้เป็นวันที่ 30 กันายน 1998) จากนั้นจะมีฝูงซอมบี้พยายามบุกเข้ามาในล็อบบี้ของโรงพยาบาล ภารกิจของคาลอสคือ ปกป้องจิลล์ไว้ให้ได้ เพราะตอนนี้เธอยังไม่ฟื้นสติ เมื่อออกจากห้องไปจะเป็นการเริ่มการต่อสู้ทันที ป้องกันประตูทางเข้าห้องไว้อย่าให้ซอมบี้พังเข้าไปได้ ไทเรลล์จะทำการปิดหน้าต่างด้วยปานเลื่อนเหล็ก แต่ด้วยความเร็วในการเลื่อนลงมาปิดที่ช้า จึงต้องใช้เวลาพอสมควร ให้ยิงสู้ไปสักพักจะมีฮันเตอร์พังประตูห้องทางด้านขวาออกมา (ประตูที่เคยโดนโซ่คล้องปิดไว้) จัดการฮันเตอร์ให้ได้ก่อน จากนั้นให้เข้าไปในห้องที่ฮันเตอร์เปิดประตูออกมาสำรวจหาสวิทต์ไฟบนกำแพงแล้วกดเปิด ในห้องนี้จะมีกระสุนให้เก็บด้วย เอาตัวรอดให้ได้จนกว่าไทเรลล์จะบอกให้ใช้ระเบิด C4 ระเบิดเสาปิดทางเข้า ซึ่งระเบิดกับตัวจุดระเบิดก็อยู่ตรงเสาใกล้ๆประตูทางเข้านั้นแหละ เมื่อระเบิดเสาแล้ว คาลอสจะขอตัวออกไปจัดการอะไรบางอย่าง

 

บทที่ 3: วันที่ 1 ตุลาคม 1998 <<< คลิกที่นี่

บทสรุป