Review: Final Fantasy 7 Remake อยู่บ้านมันเหงาเราจึงไปเที่ยว Midgar
ข้อมูลเกม: Final Fantasy 7 Remake
ผู้พัฒนา: Square Enix Business Division 1
ผู้จัดจำหน่าย: Square Enix
เครื่อง (Platform): PlayStation 4
วันวางจำหน่าย: April 10, 2020
แนวเกม: Action role-playing
ถ้าพูดถึงซีรี่ส์เกมที่โด่งดังแทบจะที่สุดแล้วล่ะก็... Final Fantasy คงจะเป็นหนึ่งในเกมที่ทุกคนกล่าวถึงแน่นอน และเมื่อเราถามถึงภาคที่แฟนๆชื่นชอบที่สุด หลายๆคำตอบก็คงเป็นภาคที่ 7 ของซีรี่ส์ ซึ่งภาคที่ 7 นั้นได้สร้างฐานแฟนคลับไว้ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นตัวของภาคเองหรือแฟนคลับของซีรี่ส์รวม ทำให้ภาค Remake ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเกมที่แฟนๆต่างจับตามองและให้ความสนใจอย่างมาก ความคาดหวังในตัวเกมก็เลยสูงมากเช่นกัน ตามมาดูกันเลยว่าเกมนี้ดีอย่างที่หวังๆกันไหม
Story
(Spoiler Alert มีเนื้อหาสำคัญจากเกม)
เรื่องจะเปิดโดยเริ่มที่เราได้บังคับตัวละครชื่อ Cloud Strife ที่เป็นทหารเก่าของ Shinra บริษัทพลังงานไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ที่กำลังดูดพลังชีวิตของโลกไปเรื่อยๆ Cloud ที่ผันตัวเป็นทหารรับจ้างก็ได้เข้าร่วมกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ชื่อ Avalanche ที่มีจุดมุ่งหมายในการต่อต้านพวก Shinra นั้นเอง โดยมีผู้นำเป็นชายหัวร้อนชื่อ Barret Wallace และมีเพื่อนสนิทวัยเด็กของ Cloud อย่าง Tifa Lockhart ช่วยเหลืออยู่ด้วย
ซึ่งพวกเขาก็ได้เข้าไประเบิดเครื่องปฏิกรณ์พลังงานที่ Shinra เป็นเจ้าของอยู่ หลังจากการระเบิดครั้งที่สอง Cloud ก็ถูกแยกกับเพื่อนของเขา ซึ่งเขาได้บังเอิญพบกับ Aerith Gainsborough หญิงสาวที่กำลังถูก Shinra ตามล่าเพราะเธอคือลูกหลานของเผ่าพันธุ์ที่มีพลังเวทย์ที่ Shinra เชื่อว่าพวกเขาสามารถใช้พลังของ Aerith เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองได้ เลยต้องการจับตัวเธอไป
หลังจาก Cloud ได้ไปรวมกลุ่มกับทุกคนแล้ว ก็ได้รับรู้แผนว่า Shinra ต้องการจะปล่อยสถานที่ๆคนรวยอาศัยอยู่ให้ตกลงไปบนสลัม(ที่หลบซ่อนของพวก Avalanche อยู่ในสลัม) ทำให้พวกเขาต้องไปหยุดยั้งแผนชั่วของพวก Shinra ระหว่างนั้น Aerith ก็พาคนอพยพออกจากสลัม แต่โชคก็ไม่เข้าข้างเลยเพราะ Aerith ถูกจับตัวไป แน่นอนว่าพวก Cloud ก็ต้องตามไปช่วย พวกเขาเลยบุกไปถึงสำนักงานใหญ่ของ Shinra และที่เดียวกันนั้นเองที่พวกเขาได้เจอกับ Red XIII หมาป่าขนแดงที่พูดได้ ซึ่ง Red ก็ได้เข้าร่วมก๊วนไปด้วย
ในระหว่างการเดินทางของ Cloud ตั้งแต่เริ่มเรื่องถึงตอนนี้ พวกเขาได้ถูกสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายผีจู่โจมตลอดซึ่ง Aerith อธิบายว่าพวกนี้คือ Whispers ซึ่งหน้าที่ของพวกมันคือการทำให้อนาคตเป็นไปในทางที่ควรเป็น Whispers จะทำทุกอย่างเพื่ออนาคตแบบที่มันคิดว่าควรเป็น ไม่ว่าจะอะไรก็ตามแม้จะต้องปลุกชีพคนตายขึ้นมาก็ตาม ในขณะเดียวกัน Sephiroth ตัวร้ายที่ Cloud คุ้นเคยและเห็นภาพหลอนตลอดเวลานั้น ได้ขโมยการทดลองจาก Shinra ที่คาดกันว่าเป็นจุดเชื่อมของการสูญพันธุ์ในสมัยก่อนไป
หลังจากช่วยเหลือ Aerith สำเร็จแล้ว พวก Cloud ก็เตรียมตัวหนีออกจากตึกโดยพวกเขาได้ฟันฝ่าศัตรูมากมายของ Shinra และได้พบกับยานพาหนะที่พวกเขาเลือกที่จะใช้ในการหลบหนี พวก Cloud ได้หนีออกไปทางทางหลวงที่ยังสร้างไม่เสร็จ และเมื่อหันหลังกลับไปมองตึก Shinra ก็ได้พบว่าจากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้ Whispers ปรากฎตัวล้อมรอบสำนักงานใหญ่ของ Shinra เต็มไปหมด แต่ยังไม่ทันได้หยุดหายใจก็มีกลุ่มศัตรูไล่ล่าตามพวกเขามาอีกครั้ง และหลังจากการหลบหนีอันดุเดือดแล้ว ที่ปลายทางหลวงพวก Cloud ได้พบกับ Sephiroth
Sephiroth ให้ข้อเสนอในการเลือกโชคชะตาของตัวเองให้กับพวก Cloud เพียงแค่พวกเขาต้องจัดการ Whispers ให้ได้ จากนั้น Sephiroth ได้เปิดประตูมิติและหายเข้าไป ทุกคนตัดสินใจตาม Sephiroth ไป ซึ่งที่นั่นพวกเขาได้พบกับ Whispers ยักษ์ที่ต้องต่อสู้ด้วย
หลังการต่อสู้ที่ยากลำบากกับ Whispers แล้ว Sephiroth ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับการต่อสู้ครั้งสุดท้าย Sephiroth ได้ทำการแยกตนเองกับ Cloud ออกมาจากคนอื่น และชวน Cloud ให้เข้าร่วมกับเขา แต่ก็ถูกปฏิเสธ Sephiroth จึงให้เวลา Cloud 7 วินาทีเพื่อให้เขาเปลี่ยนอะไรก็ได้ที่ต้องการ Cloud ได้เลือกที่จะย้อนกลับไปช่วยชีวิตบุคคลคนนึงที่สำคัญต่อเขามาก ทำให้การขัดแย้งในห้วงเวลาเกิดขึ้น และสิ่งต่างๆก็ไม่เป็นไปตามโชคชะตาแล้ว
Cloud ได้กลับมารวมกลุ่มกับคนอื่นอีกครั้งและพวกเขาทุกคนได้ตัดสินใจที่จะไล่ตามจัดการ Sephiroth ให้ได้ ถึงแม้จะไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้ว Sephiroth เป็นใครกันแน่ แต่พวกเขารู้ว่า Sephiroth คือศัตรูที่แข็งแกร่งและอันตรายที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอมา
Characters
Playable characters
Cloud Strife
Cloud Strife ตัวละครหลักของเรื่องผู้เคยเป็นทหารเก่า ได้เดินทางมาที่ Midgar เพื่อเริ่มชีวิตใหม่ในฐานะทหารรับจ้าง เขาได้รับการเชิญจากเพื่อนสมัยเด็กของเขาให้รับงานๆหนึ่ง เขาเลยได้พบกับ Avalanche เขาจะพกดาบยักษ์คู่กาย Buster Sword ติดตัวไว้ตลอดเพื่อสู้กับศัตรู Cloud มีนิสัยไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาไม่สนว่าโลกจะเป็นยังไงเพราะสำหรับเขามันก็แค่งาน แต่เราก็จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของเขาไปทีละน้อย
Barret Wallace
Berret คือหัวหน้ากลุ่ม Avalanche ผู้ชอบทำอะไรสุดโต่งดึงดูดความสนใจไปหมด เขามีภารกิจแค้นต้องชำระกับ Shinra แต่เมื่อเขาสิ้นสุดภารกิจชำระแค้นแล้ว เขาและเพื่อนๆก็ทำหน้าที่คอยช่วยเหลือและปกป้องคนของเขาที่อยู่ในสลัม ที่สำคัญคือ Berret นั้นยังรัก Marlene ลูกสาวของเขามากๆด้วย
Aerith Gainsborough
Aerith คือหญิงสาวผู้น่ารักที่ขายดอกไม้ใน Sector 5 ของสลัม เธอได้เจอ Cloud ครั้งแรกบนถนนของ Midgar หลังจากการระเบิดของเครื่องปฏิกรณ์ Mako ที่ 1 ซึ่ง Shinra ได้จับตามองเธออย่างใกล้ชิดตั้งแต่เด็กเพราะเธอมีความสามารถที่จะได้ยินเสียงของโลก
Tifa Lockhart
เพื่อนสมัยเด็กของ Cloud ผู้เป็นสมาชิกของ Avalanche และยังเปิดบาร์ชื่อ Seventh Heaven ใน สลัม ของ Sector 7 ด้วย ถึงเธอจะไม่ชอบ Shinra มากๆ แต่ว่า Tifa ก็ไม่ได้คิดว่าการระเบิดเครื่องปฏิกรณ์นั้นคือทางออก
Non-playable characters
Red XIII
สัตว์ร้ายสีแดงที่มีลักษณะคล้ายสิงโตกับหมาป่า หรือที่เรารู้จักกันในนาม Red XII เป็นตัวอย่างการทดลองที่ถูกจับไว้ที่บริษัท Shinra และถูกทดลองโดย ศาสตราจารย์ Hojo ต้องบอกว่า Red นั้นคือนักรบที่ต้องการจะทำหน้าที่ปกป้องโลก ถึงแม้ Red จะเข้าร่วมกับเราแต่ว่าเราจะไม่สามารถบังคับเขาได้ ซึ่งทางผู้พัฒนาบอกว่าในตอนต่อๆไป อาจจะสามารถบังคับเขาได้ก็ได้
Gameplay
Final Fantasy 7 Remake ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นจากภาคเก่าๆซึ่งเป็นแนว Turn-based role play ให้เปลี่ยนไปเป็น Action role- play แทน….ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ระบบการต่อสู้นั้นสนุกไปอีกแบบ เราจะต้องกดโจมตี, หลบหลีก, และป้องกันเองทั้งหมด ทำให้เราต้องขยับไปมาตลอดเวลา โดยระหว่างการต่อสู้เราสามารถเลือกคำสั่งท่าต่อสู้พิเศษหรือใช้ไอเทมต่างๆได้ ทำให้เราจะไม่ได้ทำแค่กดตีศัตรูเพียงอย่างเดียว
เรายังสามารถเปลี่ยนตัวละครระหว่างการต่อสู้ได้ด้วย เพราะบ้างครั้งตัวละครของเราอาจจะโดนจับอยู่เราเลยต้องให้ตัวอื่นมาช่วยเรา และแต่ละตัวยังมีข้อดีข้อเสียต่างกันด้วย อย่าง Barret มีข้อดีเรื่องการโจมตีระยะไกลและ Tifa จะเข้าใกล้ศัตรูและตีเร็วได้ ทำให้เราต้องปรับการเล่นและตัวละครในการต่อสู้แต่ละครั้ง
เราจะต้องคอยหาด้วยว่าศัตรูแต่ละตัวมีจุดอ่อนอะไร เพราะการสร้างความเสียหายให้กับจุดอ่อนพวกนั้นจะทำให้ศัตรูติด Stagger และจะทำให้ความเสียหายมากขึ้นไปด้วย โดยนอกจากจุดต่างๆของศัตรูแล้วเราจะต้องใช้เวทย์มนต์ในการเข้าช่วยด้วย โดยใช้สิ่งที่เรียกว่า Materia ที่ต้องใส่ในอาวุธหรือว่าชุดเกราะเพื่อที่จะใช้เวทย์ได้ (อ่านข้อมูล MATERIA ได้ที่:https://bit.ly/3cg7FDR) ด้วยความที่ Materia นั้นมีหลายอัน เราจึงสามารถปรับเปลี่ยน วิธีการเล่นของเราได้หลายแบบเลย และอย่างที่ได้บอกไปว่าเราต้องมีการวางแผนระดับนึงเลยในเกมนี้ ทั้งตัวละคร, การเล่นและอาวุธต่างๆ ภาคนี้ได้มีการเพิ่มการอัปเกรดตัวละครด้วยเพราะเราจะได้แต้มอัปเกรดมาเมื่อตัวละครของเราเลเวลขึ้น
What New?
ต้องบอกก่อนว่านอกจากระบบการต่อสู้แล้ว ภาค Remake ได้ปรับเปลี่ยนหลายๆอย่างจากเกมภาคเก่าไปมาก อย่างแรกคือตัวฉากต่างๆมีการออกแบบให้เห็นถึงความสวยงามเต็มๆตาไปเลย เราสามารถเดินดูรายละเอียดของฉากได้มากขึ้นทำให้เรารู้สึกว่าตัวเกมมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม
อย่างที่สองคือเนื้อเรื่องเสริมที่ตัวเกมได้เติมเข้ามาเพิ่มให้เราได้เล่น เช่นเนื้อเรื่อง Jessie ที่เราจะได้เรียนรู้ตัวละครของเธอมากขึ้น ตัวเกมยังได้เพิ่มภารกิจย่อยต่างๆเข้ามาอีกแต่ข้อเสียคือบ้างครั้งมันก็เป็นภารกิจที่ซ้ำซากแนว RPG อย่างไปเอาของสิ่งนี้ให้ฉันหน่อย แต่ผลตอบแทนที่เราจะได้รับก็คุ้มค่าต่อการทำภารกิจนั้นๆ
สิ่งที่ตัวเกมเปลี่ยนไปมากที่สุดคือเนื้อเรื่องเพราะ FF7 Remake จะมีเนื้อเรื่องแค่ช่วงแรกของเกมทั้งหมด ซึ่งผู้พัฒนาตัดสินใจที่จะให้เนื้อเรื่องออกมาเป็นช่วงๆ คล้ายหนัง Harry Potter ภาคสุดท้ายที่มี 7.1 กับ 7.2 ซึ่งเราจะไม่ได้สัมผัสกับเนื้อเรื่องทั้งหมดของเกมเหมือนภาคเก่าในทีเดียว และมันอาจจะกลายเป็นปัญหาที่ทำให้เกมต่อๆไปดูยืดยาวก็ได้ แต่เมื่อมองจากมุมของผู้พัฒนาแล้ว พวกเขาสามารถมุ่งเน้นแต่ละส่วนของเนื้อเรื่องได้แบบไม่ต้องกังวลอะไร พวกเขาสามารถเพิ่มสิ่งใหม่ๆเข้าไปในเกมโดยไม่ทำให้เกมยาวเกินไป แต่ก็ต้องรอดูว่าการตัดสินใจนี้จะเป็นเรื่องดีหรือไม่
Final thoughts
ถึงเราจะไม่ได้สัมผัสเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบในภาค Remake นี้ แต่ถ้าถามว่าเกมนี้คุ้มไหมกับราคาที่เราต้องจ่าย ผมบอกได้เลยว่าคุ้มค่าแน่นอน เพราะมันมีความสนุกในตัวมันเองอยู่แล้วและยังทำหน้าที่เป็นภาค Remake ที่ดีมากๆภาคนึงเลย ไม่ว่าจะเรื่องของภาพที่สวยงามตระการตาหรือระบบการเล่นที่สนุกสนาน ถึงจะมีสิ่งที่ขัดใจคนเล่นบ้างในบางช่วง แต่ต้องบอกเลยว่าไม่ว่าจะแฟนๆของซีรี่ส์หรือชาวเกมที่หนีโควิดก็ตาม อยากให้ลองเล่นเกมนี้ดู จะติดใจทั้งตัวละครและเพลงในเกมที่ไพเราะเสนาะหู สำหรับแฟนเกมที่ไม่มี PS4 ก็รอๆกันหน่อยเพราะมีข่าวว่าตัวเกมจะไปลงให้กับเครื่อง PC ด้วย ถ้าข่าวนี้ได้รับการยืนยันแล้ว ทาง Beyond Godlike จะรีบสรุปข่าวมาให้ทุกคนได้ฟังแน่นอน