[Review] Kimetsu no Yaiba : Yuukaku-hen สุดยอดผลงานที่เต็มไปด้วยงานศิลป์ พร้อมยกระดับมาตรฐานอนิเมะแห่งยุค
เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะได้ดูกันจนจบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ “Kimetsu no Yaiba : Yuukaku-hen” หรือในชื่อภาคภาษาไทยว่า “ดาบพิฆาตอสูร ย่านเริงรมย์” ภาคล่าสุดของซีรีส์อนิเมะชื่อดังแห่งยุคที่ไม่ว่าจะออกมากี่ตอนต่อกี่ตอนนั้นก็สามารถเรียกกระแสและเป็นที่พูดถึงของคนในวงการได้เป็นอย่างดี และนี่ก็ถือว่าเป็นเวลาอันดีที่เราจะมารีวิวให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจว่าจะดูอนิเมะเรื่องนี้หรือไม่ และเหตุผลใดที่คุณไม่ควรที่จะพลาดอนิเมะเรื่องนี้ไป เราไปดูกันเลย!!
เรื่องราวสุดเข้มข้น ต่อเนื่องเสมือนดูละครเวทีดีๆ เรื่องหนึ่ง
สำหรับ Kimetsu no Yaiba : Yuukaku-hen นั้นจะเป็นภาคที่บอกเล่าเรื่องราวสืบเนื่องต่อมาจากเหตุการณ์ในเดอะมูฟวี่ Kimetsu no Yaiba the Movie: Mugen Train ที่หลังจากเหล่าตัวเอกได้พบกับศึกสุดอันตราย พร้อมพบเจอกับการต่อสู้ชี้เป็นชี้ตายระหว่างอสูรข้างขึ้นอันดับที่ 3 ‘อากาสะ’ และเสาหลักเพลิงแห่งกลุ่มพิฆาตอสูร ‘เรนโงคุ เคียวจูโร่’ พร้อมบทสรุปสุดเศร้ากับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของกลุ่มพิฆาตอสูร ที่แม้ว่าจะสามารถรักษาชีวิตของผู้คนบนรถไฟได้สำเร็จ แต่มันกลับต้องแลกมาด้วยชีวิตของเสาหลักเพลิงสุดแกร่งคนนี้ ด้วยความเสียใจ ผนวกกับความอ่อนแอที่ไม่สามารถช่วยเหลือเรนโงคุได้ ทำให้สิ่งนี้เป็นแรงผลักดันให้เหล่าตัวเอกนั้นต้องการที่จะแข็งแกร่งมากขึ้น และสัญญากับตนเองว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นอีก
4 เดือนผ่านไปหลังจากการรักษาแผลกายและแผลใจ วันหนึ่งเหล่าตัวเอกก็ได้พบกับ ‘อุซุย เท็นเง็น’ นินจาสุดแกร่งเจ้าของตำแหน่งเสาหลักเสียงที่กำลังตามหาพรรคพวคเพื่อร่วมภารกิจกับเขาในการเดินทางสู่ ‘โยชิวาระ’ ย่านเริงรมย์อันเต็มไปด้วยแสงสียามค่ำคืน โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการตามหาภรรยาของอุซุยที่หายตัวไปจากภารกิจการสืบหาอสูรที่แฝงตัวอยู่ในความมืดมิดนี้ โดยที่เหล่าตัวเอกนั้นไม่รู้เลยว่าอสูรที่พวกตนต้องรับมือนั้นคืออสูรระดับข้างขึ้น ที่เสมือนเป็นปมในใจของตนนั่นเอง
สิบเอ็ดตอนกับการจัดสรรเรื่องราวได้อย่างครบรส
แม้ว่าในภาคนี้จะมีจำนวนตอนเพียง 11 ตอน แต่ทั้งๆ แบบนั้นในภาคนี้กับจัดสรรเรื่องราวได้อย่างครบถ้วนและครบรส โดยเริ่มตั้งแต่ตอนแรกที่เมื่อเราได้รับชมแล้ว เราจะได้สัมผัสถึงความโศกเศร้าและรับรู้ถึงผลกระทบของการสูญเสียเสาหลักเพลิงผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นการขยายปมสำคัญของเหล่าตัวเอกที่ทำให้เราได้รับรู้ว่าแม้เสาหลักเพลิงจะมอดดับไป แต่เพลิงในใจของเหล่าตัวเอกกับลุกโชนและเป็นดั่งแรงผลักดันที่มีน้ำหนักมากพอที่จะช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวต่อจากนี้ไปได้เป็นอย่างดี และการส่งไม้ต่อให้เสาหลักคนต่อไปอย่างอุซุย ที่เปรียบเสมือนรุ่นพี่และครูที่ดีของเหล่าตัวเอกนั้นก็ทำได้อย่างชาญฉลาดและดูไม่ขัดตา
ในส่วนของเรื่องราวที่ดำเนินไปในย่านโยชิวาระกับภารกิจตามหาภรรยาของอุซุยที่ได้ขาดการติดต่อไปหลังจากมาทำภารกิจในการสืบหาอสูรที่แฝงตัวอยู่นั้นก็ทำได้อย่างน่าติดตาม และแม้ว่าเบื้องหน้าย่านนี้จะเต็มไปด้วยแสงสีและความสวยงาม แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังมันกับถูกปกครองด้วยอสูรสุดแกร่งระดับข้างขึ้น และครั้งนี้นั้นเป็นอีกศึกใหญ่ที่จะเสมือนศึกที่ช่วยคลายปมความเศร้าในใจของเหล่าตัวเอก
เมื่อศัตรูคืออสูรระดับข้างขึ้นแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เหล่าตัวเอกจะเอาชนะได้ ทำให้การต่อสู้ในภาคนี้นั้นมีมากขึ้นและเข้มข้นมากกว่าภาคที่ผ่านๆ มา ความแข็งแกร่งและความน่ากลัวของอสูรข้างขึ้นนั้นได้แสดงให้เราได้เห็นกันแบบจัดเต็มในภาคนี้และทำให้คนที่ได้ดูฉากการต่อสู้แต่ละฉากในอนิเมะเรื่องนี้นั้นลุ้นจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ เปรียบกับการมาตะโกนข้างหูบอกกับคนดูล่วงหน้าว่าต่อจากนี้ไปในอนาคตนั้นพวกเราจะได้พบเจอกับการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นอีกระดับ
บทสรุปของเรื่องราวและความหลังของทั้งตัวละครเสาหลักเสียงผู้เต็มไปด้วยความสดใส และศัตรูผู้เป็นอสูรระดับข้างขึ้นนั้น ทำให้เราได้รับรู้ว่าทุกอย่างนั้นเบื้องลึกแล้วมันเต็มไปด้วยความโศกเศร้า และแน่นอนว่าภาคนี้นั้นก็ได้บอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้มาได้อย่างพอดีและมีความกลมกล่อมไม่มากไปและไม่น้อยไป มันทำให้การดูอนิเมะในภาคนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานและเต็มไปด้วยความอินกับเรื่องราวต่างๆ ได้และเชื่อได้เลยว่าแฟนๆ ของดาบพิฆาตอสูรนั้นจะต้องชื่นชอบมันอย่างแน่นอน
ที่สุดของงานศิลป์ ผลงานทรงคุณค่าจากสตูดิโอคือจรวดที่นำพาอนิเมะเรื่องนี้ก้าวไปอีกระดับ
ถึงแม้ว่าเรื่องราวของอนิเมะในภาคนี้นั้นจะทำได้อย่างยอดเยี่ยมแต่ทั้งนี้มันก็ไม่ได้ดีถึงขั้นขึ้นหิ้งและมันยังคงอยู่ในเกณฑ์อนิเมะที่ดีมากเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงการก็คงจะไม่พ้นฝีมือของสตูดิโอผู้อยู่เบื้องหลังผลงานอย่าง Ufotable ที่ยิ่งทำยิ่งแสดงให้เห็นถึงฝีมืออันน่ายกย่อง โดยเฉพาะใน Kimetsu no Yaiba : Yuukaku-hen ที่ทางสตูดิโอได้จัดเต็มทั้งเทคนิคและการเพิ่มเติมสตอรี่ในฉากการต่อสู้หลายๆ ฉากให้ขยายมากขึ้นกว่าเดิมจากต้นฉบับมังงะ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับมาตรฐานงานภาพของอนิเมะในยุคนี้ให้ขึ้นไปอีกระดับ
โดยทั้ง 11 ตอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่ 10 ซึ่งเป็นเสมือนจุดไคลแมกซ์ของเรื่องนั้น ทางสตูดิโอก็ได้จัดเต็มงานภาพ ที่ไม่ว่าจะย้อนกับไปดูกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ทุกฉากทุกตอนนั้นก็ทำได้อย่างไร้ที่ติ เรียกได้เลยว่ากดหยุดที่ฉากไหนก็สามารถนำฉากนั้นไปขึ้นกรอบติดผนังบ้านได้เลย ดังนั้นหากจะให้บอกว่าในภาคนี้นั้นต้องยกความดีความชอบให้กับทีมงานอนิเมะผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็คงเป็นอะไรที่ไม่ผิดอย่างแน่นอน และหวังว่าในภาคต่อไปทางสตูดิโอจะยังคงมาตรฐานที่ดีแบบนี้อีก และเรายังหวังอีกว่ามังงะเรื่องอื่นๆ ที่มีเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้เรื่องนี้นั้นในอนาคตจะสามารถทำได้อย่างที่เรื่องนี้เป็นเช่นกัน และมันคงเป็นดั่งรางวัลสำหรับผู้ชมที่รอรับชมมันอยู่อย่างแน่นอน
โดยสรุป
คะแนนโดยรวม 9.5/10
Kimetsu no Yaiba : Yuukaku-hen เป็นอีกหนึ่งภาคที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ ทั้งในส่วนของเรื่องราวสุดเข้มข้นและน่าประทับใจ การต่อสู้สุดมัน และที่น่าชื่นชมมากที่สุดคือเรื่องของงานภาพที่ในอนิเมะเรื่องนี้นั้นสามารถยกระดับมาตรฐานของอนิเมะซีรีส์ได้อย่างไร้ที่ติ ทำให้ผลงานอนิเมะเรื่องนี้เปรียบเสมือนผลงานชิ้นทองคำที่น่ายินดีแก่แฟนๆ ของดาบพิฆาตอสูรทุกคน และหากคุณเป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบในการดูอนิเมะ เรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
สำหรับผู้ที่สนใจ Kimetsu no Yaiba : Yuukaku-hen สามารถรับชมได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
- iQIYI : https://www.iq.com/play/1q4exf58np0
- Bilibili Thailand : https://www.bilibili.tv/th/play/1033760
- WeTV Thailand : https://bit.ly/3sGAmnt
- TrueID : https://bit.ly/3Jx2QGL
- Viu Thailand : https://bit.ly/3sFVdqW
- Netflix : https://www.netflix.com/th-en/title/81091393